>

รีวิวสรุป SEO Book – The Art of SEO 4th Edition [Chapter1]

reflective consciousness

 

[ประกาศ] เนื้อหาทั้งหมดนี้ เป็นแค่สรุปเท่านั้น ไม่ได้นำเนื้อหาในหนังสือมาแปลแต่อย่างใด หากท่านสนใจรายละเอียด โปรดซื้อหนังสือ The Art of SEO 4th Edition

 

บทที่ 1 คิดว่าเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับ สถานะของ SEO ว่ามันมีอยู่เพื่ออะไร และอธิบายเกี่ยวกับ พฤติกรรมการค้นหาของ users

ผมอ่าน table of content แล้วก็พบว่าน่าสนใจมากครับ สามารถมาต่อยอดการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ของเรา ให้ตอบสนองกับการค้นหาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งผมยอมรับเลยว่าอาจทำ เนื้อหาไม่เก่งเท่ากับนักการตลาดสาย content marketing ชั้นนำในไทย แต่ผมก็พิสูจน์ให้ตัวเองเห็นว่า ผมสามารถทำเว็บไซต์ให้ตอบสนองกับ SEOได้ดีกว่าคู่แข่งในหลายๆสำนักครับ

 

เนื้อหา บทที่ 1 จะมีดังต่อไปนี้

Is this Book for you ?

SEO Myths Versus Reality

The mission of Search Engines

Goals of Searching: The User’s Perspective

Determining User Intent: A Challenge for Search Marketers & Search Engine

  • Navigational Queries
  • Informational Queries
  • Transactional Queries
  • Local Queries
  • Searcher Intent

How User Search

How Search Engine Drive ECommerce

Types of Search Traffic

  • Search Traffic by Device Type
  • More on the Makeup of SERPs

The Role of AI and Machine Learning

Using Generative AI for Content Generation

SEO as a Career

Conclusion

 

ในบทนี้กล่าวถึงการทำงานในสายงาน SEO ว่าทำอะไรบ้าง โดยมีเป้าหมายให้ทั้ง Search Engine และ ผู้ใช้งานจริง ควบคู่กันไป และ ได้เน้นย้ำว่า ranking อาจไม่ใช่เป้าหมายที่สุด โดยแท้จริงแล้วทำเพื่อ เปลี่ยนให้ผู้ใช้งานกลายเป็นลูกค้าเรา ทางสถิติมี 7.5 พันล้านคนใช้งานการค้นหาใน Google ในแต่ละวัน หรือ 85,000 การค้นหาในแต่ละ วินาที ซึ่งมากกว่า 50% ของ traffic บนเว็บมาจากช่องทาง Organic ทำให้ SEO มีความสำคัญต่อธุรกิจหลายชนิด

พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป เพราะมีการค้นหา และเกิดการ interact กันคน ทำให้ทุกคนต้องการ เพิ่ม traffic ให้กับเว็บที่ตนเองเป็นเจ้าของ จึงกลายเป็นพื้นที่ทางอสังหาฯได้เลยแต่มันก็ไม่ง่าย ในหนังสือเล่มนี้จะอธิบาย ตัวอย่าง และ ขุดลึกตามไปถึงความเปลี่ยนแปลงของการทำ SEO

Is this Book for you ? – หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคุณไหม ?

เขาพยายามเคลมว่า หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนทุกคน และทำการพัฒนาทักษะทางด้าน SEO และหนังสือเล่มนี้ยังครอบคลุมไปถึงคนที่ทำงานที่อาจต้องมีความรู้ทาง SEO ด้วย เช่น Product Manager, Marketer, Graphic Designer และ web developer. โดยหนังสือทั่วไปอาจจะเน้นเรื่อง teachnical SEO เสียมาก โดยส่วนใหญ่ พวก CMS Platform หรือ Ecommerce Platform ที่เราใช้งานอยู่อาจไม่ได้พัฒนามาให้เหมาะสมกับการปรับปรุงเว็บทางด้าน SEO มากนัก เช่นใน JavaScript หรือ Static site Generator ซึ่งมันจะเสียเวลามากหากคุณมัวแต่ศึกษาทางด้าน Technical SEO เหล่านั้น

ในเนื้อหาส่วนนี้เขาได้อธิบายเกี่ยวกับ สิ่งที่ต้องทำและเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเว็บ เช่น Technical SEO ควรให้ความสำคัญอย่างไร และ Link ที่เราได้จำเป็นมากแค่ไหน

สิ่งที่เขาเน้นย้ำให้เราคิด ก็คือ ความ Creative ที่จะใส่ลงไปในเว็บไซต์ และการค้นหา Personas สำหรับอุตสาหกรรมนั้นๆ โดยเนื้อหาหลักๆ ให้ไปดูบทที่ 4 [Chapter 4]

SEO Myths Versus Reality

คือหัวข้อนี้เขาอธิบายเรื่องคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเรื่อง SEO นั่นแหละ

อย่างเช่น

อภินิหาร – SEO ใช้เทคนิคลับๆ นิดหน่อย

ความเป็นจริง – SEO นั้น Complex และ ใช้เวลามาก การปรับ SEO ให้เว็บก็เหมือนปรับแต่ง Resume ประมาณนั้น (ในหนังสือมีอธิบายเยอะกว่านั้นนะครับ)

อภินิหาร – SEO นั้น Spammy

ความเป็นจริง – จริงๆ ก็มีเทคนิค SEO ที่ไร้จรรยบรรณอยู่ โดยละเมิดกฏของ Google และมาตรฐานการพัฒนาเว็บ ในหนังสือเล่มนี้ไม่มีการสอนวิธี “Black Hat”

อภินิหาร – SEO ถ้าไม่ Spam จะเปลือง เงิน และ เวลา

ความเป็นจริง – การทำแบบ Black Hat อาจทำให้ได้ rank ที่รวดเร็ว แต่อยู่ในช่วงสั้นๆ และถูก Banned จาก Index ใน Google โดยเฉพาะ keyword ที่มีการค้นหาสูงๆ จะต้องใช้เวลา และ เงิน ในการอยู่บน top10 มันไม่มีแบบ สารสเตียรอยด์ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแบบนั้น

*** อันนี้ เหมือนหนังสือบอกเป็นนัยๆว่า ทำ SEO ต้องใช้เงิน ซึ่งตรงนี้ Search Monopoly เห็นด้วยอย่างยิ่ง !! *** 

อภินิหาร – คุณต้องการ Web Dev หรือ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน IT ในการทำ SEO

ความเป็นจริง – หากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทาง Tech แล้วหล่ะก็ ในตลาดมีเครื่องมือในการทำ SEO ซึ่งอ่านเพิ่มในบทที่ 4 (Chapter 4) เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยในเรื่องการทำ Technical SEO ได้เป็นอย่างมาก โดยการแก้ไขหรือปรับปรุงเว็บสามารถให้คนที่ดูแลเว็บไซต์หรือโปรแกรมเม่อร์ช่วย Support เราได้ หากคุณมีความรู้ทางด้าน HTML บ้างนอดหน่อยจะช่วยได้มากเลย และคุณไม่จำเป็นต้องเก่งด้าน Coding แม้แต่น้อย

อภินิหาร – SEO เหมาะสำหรับ เว็บ eCommerce และ เว็บองค์กรขนาดใหญ่

ความเป็นจริง – หากเราต้องการที่จะทำให้เว็บค้นหาเจอใน Google โดยที่ไม่ต้องขายของแบบ Direct sales เราสามารถพัฒนาเนื้อหาในการสร้าง Blog เพื่อสร้างรายได้ จากการวาง Ads หรือวาง Affiliate link หรือจากการสัมครเป็นสามาชิกเว็บเรา ทุกๆกิจกรรมเหล่านี้เราสามารถใช้ประโยชน์จากการทำ SEO ได้

อภินิหาร – การปรับเว็บต้องใช้เงินในการออกแบบเว็บใหม่ หรือเปลี่ยนค่าย CMS หรือจ่ายเพื่ออับเกรดเว็บโฮสติ้ง

ความเป็นจริง – ในบางเคส เราอาจต้องเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ หรือโฮสติ้ง เพื่อแก้ไขปัญหาทางเทคนิคของ SEO โดยมันมีหลายทางเลือก ในเมื่อเราสามารถสร้าง Traffic ได้เพิ่มขึ้น มันอาจจะคุ้มค่าในการลงทุนตรงส่วนนี้ โดยในกฏของการทำ SEO ไม่ได้บอกว่าคุณจำเป็นต้องใช้แต่ WordPress เสมอไป

อภินิหาร – SEO จำเป็นต้องใช้ Social Media ที่มีความเคลื่อนไหวสูง หรือใช้ช่องทางของ Influencer ร่วมด้วย

ความเป็นจริง – เราไม่จำเป็นต้องใช้ หรือทำอะไรที่เกี่ยวกับ Social Media เลย ถ้าหากมันไม่สมเหตุสมผลสำหรับองค์กรคุณ มันอาจจะช่วยในการสร้าง Link ได้บ้าง (Chapter 10) แต่หากว่าเว็บเรามีเนื้อหาที่ดี และเป็นมิตรต่อเสิร์ชเอนจิ้น เราสามารถสร้าง Link ที่มีคุณภาพได้อย่างฟรีๆโดยไม่ต้องติดต่อใคร แต่มันอาจจะใช้เวลานานหน่อย

อภินิหาร – การซื้อ Google Ads หรือการติด Google Ads ในเว็บของเรา จะใช้ต้นทุนที่ถูกกว่า SEO

ความเป็นจริง – Paid Search อาจทำให้คนเข้าเว็บเรามากยิ่งขึ้นมากกว่าจะไม่ทำอะไร แต่การทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จ จะสร้าง traffic ได้มากกว่าการซื้อโฆษณา และสร้าง ROI ที่ดีกว่า การซื้อโฆษณาบน Google ก็ไม่ได้ทำให้อันดับทาง Organic นั้นสูงขึ้นแต่อย่างใด แต่การซื้อ ads อาจทำให้ traffic เพิ่มขึ้น และอาจมีคนเอาเนื้อหาที่ดีของเราไปทำ Backlink ให้ต่อ ถือว่าเป็นการเพิ่ม rank ในแบบอ้อมๆ โดยจะอยู่ในบทที่ 10 (Chapter 10) ด้วยความคาดหวังที่ว่า มีคนคลิกที่ ads เราแล้วนำ link เราไปแชร์ต่อ แต่มันไม่ใช้วิธีการที่เราสามารถคาดคะเนได้

หากใครที่ซื้อ ads แล้วได้ link หรือ ranking เพิ่มขึ้น ก็ขอแนะนำให้ทำต่อไป แต่แนะนำให้เพิ่ม organic traffic ควบคู่ไปด้วยจะดียิ่งกว่า เน้นย้ำอีกครั้งว่า SEO ทำ ROI ได้ดีกว่า การทำ SEO นั้นไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง แต่บางเคสเช่นต้องไปแข่งกับองค์กรใหญ่ๆ ก็ต้องมีทุนหนาพอสมควร สำหรับ keyword ใหญ่ๆที่มีมูลค่าสูง

NOTE เพิ่มเติม

การทำโฆษณาบน Google จะช่วยในเรื่องการทำ keyword research ได้อีกด้วย หรือเรานำไปใช้ทำ A/B Testing เพื่อผลประโยชน์ในการเลือก Landing page ให้กับการทำ SEO และในวงการ SEO พวกเทพๆ เขาก็นิยมใช้ ข้อมูลที่มาจาก Google Ads อาทิ conversion, Engagement เพื่อพัฒนากลยุทธ์ SEO

 

(1) อ่านบทต่อไป The mission of Search Engines

(2) กลับไปหน้าหลักของ รีวิวหนังสือ The Art of SEO 4th Edition

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *