พัฒนาคุณภาพ และ ประสิทธิภาพการโฆษณา Google Adword ผ่านทางการวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งานของผู้ชมโดยเครื่องมือ Google Analytics - User Explorer
การวิเคราะห์ เพื่อพัฒนา Performance ทางการตลาดออนไลน์ ต้องเข้าใจการค้นหาของผู้เข้าชม เราจำเป็นต้องเรียนรู้ว่า Targeting Visitor มีพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ของเราอย่างไร ก่อนที่จะเข้ามาปิดการขาย หรือโทรเข้ามาสอบถาม
เนื้อหาจากการเรียน Google Adwords Free - Lecture 001 - The War Room
บทความนี้ ได้เขียนขึ้นเพื่อช่วยเหลือ ผู้ที่เข้ามาศึกษา การทำ Google Adword Free จาก Class Lecture 001 - The War Room
ผู้ที่กำลังเรียนรู้ การพัฒนาเว็บไซต์ของตนเอง และ อยากเรียนรู้ การทำการตลาดออนไลน์ โดยพัฒนาในเชิงประสิทธิภาพ และทำได้ด้วยตนเองเป็น เราได้นำ วิธีการเรียนรู้ และกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด และนำ Technique บางอย่างที่สำคัญๆ ที่ได้พูดกล่าว คัดมาลงใน Webpage ของ Search Monopoly อยากให้ผู้ที่เข้ามาเรียนรู้ สามารถติดตาม เนื้อหา วิชา ที่ผมนำมาถ่ายทอด ได้ด้วยตนเอง เมื่ออยู่ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเข้ามาหาแบบเจอหน้ากัน เพื่อการประหยัดรายจ่าย และประหยัดน้ำมัน ตลอดจนเวลาการเดินทาง
อยากแนะนำ ผู้ที่ยังไม่ได้เคยเข้ามาเรียนรู้ ให้ลอง ติดตาม คอร์ส เรียน GOOGLE ADWORD ต่างๆ จาก SEARCH MONOPOLY
หากอ่านบทความนี้จนจบ คุณจะประหยัดค่าเดินทางไป อย่างน้อย 250 บาทโดยทันที !!
และคุณจะประหยัด ค่า เซหมิหน่า ขายคอร์สอบรมแพงๆ ไปแล้ว อย่างน้อย 5,000 บาท !!
รวมแล้ว Value นี้ 5,250 บาท ได้แบบฟรีๆ
การเข้าดู User Activity ใน User Explorer
สำหรับท่านที่ยังใช้ Google Analytics ไม่ค่อยจะเป็น หรือไม่มีประสบการณ์ ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
โดยทาง Search Monopoly จะเร่งดำเนินการพัฒนา การใช้งาน Google Analytics เบื้องต้นให้กับทางผู้ที่เข้ามาเรียนรู้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพทางการตลาดออนไลน์ของเรา
เนื่องจาก ผู้ค้าขาย หรือทำธุรกิจทางด้านออนไลน์ หรือ Internet Marketing ส่วนมาก โดยเฉพาะ กลุ่มผู้ประกอบการ SME จะไม่ค่อยให้ความใส่ใจ ในเรื่องของคุณภาพ ผู้ใช้งานเว็บของตนเอง ว่าพวกเขาเหล่านั้น เข้ามาใช้งานจริงๆแล้ว พวกเขาเข้ามาดูอะไรบ้าง ??
เราจะไม่รู้เลยว่า เราจะพัฒนาเนื้อหา อะไรต่อไป
เราจะไม่รู้เลยว่า เราจะต้องจัดวาง หน้า Webpage ของเราอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น
เราจะไม่ทราบเลยว่า ผู้เข้าชมของเราเป็นใคร มีลักษระแบบไหน
เราจะไม่ทราบได้เลยว่า Traffic Flow ใน Website ของเราเข้ามาโดยมี PATH อย่างไร
ซึ่งตรงนี้สำคัญมากๆ ถ้าเรามัวแต่ไปบริหารการเติบโตเพียงอย่างเดียว หวังเอาน้ำในบ่อหน้า เพียงแต่คิดว่า ทำอย่างไรเพื่อให้ติดอันดับแรกๆ ในหน้า Google แล้วจะได้ยอดขายมากๆ ซึ่งแนวความคิดแบบนี้จะเป็นแนวคิดที่ผิด การเติบโตควรพัฒนาในเชิงคุณภาพ อย่างเช่น SEARCH MONOPOLY ได้ทดสอบ (Test & Experiment) เพื่อพัฒนา Micro-Units ในการทำ Adword ADS (PPC) โดยมีคนเข้ามาเพียง 12 Clicks ภายใน 5 วัน และเราได้ คนโทรเข้ามาสอบถามและอยาก หรือสนใจจะจัดจ้างเราอย่างจริงจัง นี่คือสิ่งสำคัญมากๆ ในการพัฒนาทางการตลาดออนไลน์
หลักแนวคิดของ SEARCH MONOPOLY คือเน้นการทำเว็บไซต์ เพื่อเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานจริงๆ และ ความน่าเชื่อถือ (Trust) จะเข้ามา และ สร้างจากการให้ความรู้ และทำให้ลูกค้าเข้าใน Scope ในเนื้องานของเรา ซึ่งส่งผลให้ เกิด High Effective
เมื่อเราเกิด Pattern ที่ดี แล้วนำไปสร้างการเติบโตตาม Scale ให้ใหญ่ขึ้น ตัว TEST Units ที่ดี ที่เรามีทั้งหมด นำมาสร้าง โอกาสทางธุรกิจ และประหยัดงบประมาณรายจ่ายได้อย่างดีเยี่ยม
โปรด ค่อยๆเรียนรู้ การทำการตลาดออนไลน์ ไปกับ SEARCH MONOPOLY บทความนี้เราจะเน้น อ้างอิงจาก ผลลัพธ์ ในบทเรียนของ Google Adword ในห้องเรียนแรกสุด "The War Room"
สิ่งแรกที่คุณควรเข้าไปดู หลังจากลองทำ TEST UNIT แล้ว หรือ RUN PPC Ads ไปได้ 5 - 14 วัน ให้ลองมาดูที่ User Explorer ก่อนเลย เพื่อเข้าใจ Flow ของคนที่เข้ามาติดต่อสอบถาม และเปรียบเทียบกับลักษณะ ของ ผู้เข้าชมที่ไม่ได้เข้ามาติดต่อสอบถาม เมื่อเราทำการวิเคราะห์ และ ทำการวิจัยในระบบ เราจะได้ Operation Input กลับเข้าไปในระบบอีกชุดหนึ่ง และเราจะได้ Hypothesis (สมมติฐาน) อีกชุดหนึ่ง ซึ่งนำไปเขียนเป็น Plan และ บทวิเคราะห์ส่วนตัว สำหรับพัฒนาคุณภาพทางการตลาดออนไลน์ ได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อทำซ้ำๆ เราจะเห็นการเติบโต อย่างสมเหตุสมผลที่ดีมากๆ และลูกค้าที่เราได้จะเป็นลูกค้าของเราจริงๆ นั่นหมายถึง ลูกค้าที่มีคุณภาพ -- ลูกค้าที่มีความพร้อม -- ลูกค้าที่เข้าใจในบริการของเรา ซึ่งถ้าเราได้ลูกค้าแบบนี้ เราจะได้ลูกค้าที่มี Value ทางธุรกิจ เราจะพัฒนางานของเราได้ดี และเขาจะเข้าใจกระบวนการทำงานของเรา อีกทั้ง ธุรกิจของเขาจะเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถทำให้เป็นลูกค้าชั้นดี เป็นลูกค้าระยะยาวได้อีกด้วย
สิ่งที่ต้องกดดูในหน้า Dashboard (Google Analytics Interface)
- 1) กดที่ Category หลักในส่วนของ Audience
- 2) คลิกที่ User Explorer
- 3) ให้เลือกที่ Paid Traffic
อย่าลืมกำหนดระยะเวลา time line ที่มุมขวาบน โดยบทเรียน Lecture 001 นี้ จะให้ผู้เรียนเริ่มจาก 5 - 7 วันก่อน
แต่ถ้าหากได้ Ads แคมเปญ ที่แข็งแรง และมี Pattern ในการปิดการขายแล้ว เราจะ Research แบบราย 14 วัน
ตัว Ads หรือ text script ใน Google PPC Ads จะส่งผลให้ลูกค้า พิจารณา และทำความเข้าใจเบื้องต้น
ปัญหาระดับชาติ ของคนไทย มักจะมีคนที่ใช้งาน Internet ไม่แข็งแรง หรือ พวกผู้ใช้งาน ที่มักรีบเร่ง มักมีพฤติกรรม คลิ๊ก โฆษณา Ads พร้อมทั้ง คลิ๊กทุกๆอย่าง ที่อยู่บนหน้าแรกๆ ใน Google ซึ่งสิ่งนี้ เรามีแผน ในการแก้ไขในบทต่อไป
อีกส่วนประกอบที่สำคัญอย่างยิ่ง คือหน้า Landing Page ที่เป็นตัวสำคัญ ในการคัดกรองคนที่จะเข้ามาสอบถาม บริการ หรือสินค้าของเรา ไม่เพียงแค่ จะนึกถึง "Call to Action" เพียงอย่างเดียว แต่หน้า Landing Page นั้น จุด โฟกัสหลักๆ ทุกจุดที่คุณจะทำให้เขาเข้าใจว่าเราเป็นอะไร ทำอะไร ให้ Value ที่เขาจะได้รับนั้นคืออะไร ?
ฉนั้นแล้ว ทุกๆ ตัวอักษร ในหน้า Landing Page เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะทำให้คนโทรเข้ามาสอบถาม
เรื่องต่อมา คือการเข้าไปดู และ วิเคราะห์ ในเรื่องของเวลา (Time)
ก่อนจะกล่าวถึง Time ขอให้ผู้เรียน Adword ตระหนักอย่างยิ่ง หลักๆ สำคัญ คือ
TIME & Keywords
เราจำเป็นต้องรู้ว่าเขา ใช้คำค้นหา คำว่าอะไร
และเราจำเป็นต้องรู้ว่า เวลาที่เขาเข้ามานั้นเป็นเวลาเท่าไหร่
อันนี้ให้ดูที่ Dimension และลองคลิกเข้าไปดูในส่วนของเวลา
เลือก User Session ที่โทรสอบถามเข้ามา
- 1) ดู Session เป้าหมาย ที่มีการโทรเข้ามา
- 2) ศึกษา ระยะเวลาที่เขามาเรียนรู้ในเว็บของเรา
- 3) จดบันทึกวันที่ หรือเช็คดู ว่าเป็นวันที่ ที่เรา RUN โฆษณา Google AdWords
กลับเข้าไปศึกษาใน Google AdWords Dashboard แล้วเข้าไปดู แคมเปญที่เรา RUN Ads ทิ้งไว้ พร้อมทั้งระบุวันที่ ที่เราได้รับการโทรเข้ามา เพื่อคัดตัว Keyword ที่เข้ามาว่าเป็น Keyword ชนิดใด
ตรงนี้สำคัญมากๆ --- เราจะสามารถสกัด Point เหตุผลของการซื้อ --- เหตุผลของการขาย ในเรื่องของ การตลาดออนไลน์ โดยใช้ PPC ได้ดีมากยิ่งขึ้น
เราจำเป็นต้องเขามาดู Session ที่มีการโทรสอบถามเท่านั้น
ส่วน Session ที่ไม่ได้โทรมาสอบถาม ก็ไม่ควรทิ้งไป หากมีโอกาส ก็ต้องมาวิเคราะห์ พฤติกรรมของผู้ใช้งานเช่นกัน
สรุป User ที่เข้ามาสอบถาม ไม่ได้ดูแค่หน้า Landing Page อย่างเดียว
และเขาก็ไม่ได้ เข้ามาดูแค่หน้า Selling Page เพียงอย่างเดียว
User ผู้นี้ เข้ามาดู Process อย่างละเอียด
เช่น รูปแบบการทำงานของเรา
ประวัติของเรา
รวมถึงไปดู เนื้อหาอื่นๆ เช่นใน Case นี้เข้ามาดูไปถึงเรื่องของ Google Adword Advertising อีกด้วย
และใช้เวลาเข้ามาดู เกือบๆ 1 ชั่วโมง และเปิดเข้ามาดู 2 Session หมายถึง 2 ช่วงเวลา
เปิดไป 22 Pageviews ดูเนื้อหาเว็บของเราอย่างละเอียด และครุ่นคิด นี่คือพฤติกรรมของผู้ใช้งานจริงๆ
เนื่องจาก Search Monopoly เป็นงานทางด้านบริการ ฉนั้น เรื่องของ Trust จึงเป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการทำ Content
Search Monopoly ไม่ได้มีเว็บที่ออกแบบ (Design) ที่ตรงตามหลักการของ UX เท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ทิ้งกระบวนการ หรือ องค์ความรู้เรื่องของการทำ UX เข้ามาประยุกต์ในหน้า Landing Page และ เว็บเพจต่างๆ ประกอบกัน จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของ User Flow ที่เข้ามาติดต่อสอบถาม
โปรด ละทิ้งความเชื่อ เดิมๆ เรื่องการปิดการขายภายใน 7 วินาที หรือ การทำ Selling Page เพียงหน้าเดียว
เพราะการกระทำแบบความเชื่อผิดๆ จะทำให้เราตัวเล็กลง และวิ่งตามคู่แข่งไม่ทัน
มักจะมี Agency ที่ให้ความรู้แบบ ชุ่ยๆ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการ SME อ่อนแอ
และให้คำนึงถึงเว็บไซต์ ของธุรกิจดังๆ เขาให้ความสำคัญมากในงานพัฒนาเนื้อหา และการวิเคราะห์ของการใช้งาน และพัฒนา User Experience อยู่เสมอๆ
จงระวังอยู่ตลอดว่า คู่แข่ง จะเดินข้ามหัวเรา เมื่อเราหยุดนิ่งๆ และคิดว่าเราทำอันดับได้ดีแล้ว
แล้ววันหนึ่ง อันดับใน Google ของคุณจะค่อยๆหายไปจากระบบโลกออนไลน์ ถ้าเราไม่รู้จักเรื่อง การพัฒนา และ ใส่ใจในรายละเอียด
กลับมาดู Specific ใน Adword แคมเปญ
มาถึงจุดนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรต่อ ??
A) กลับไปดูในหน้า SEO Process
B) เข้าไปดู แคมเปญ Adword
C) คัดกรอง และจัดทำแผนเชิง กลยุทธ์
D) กลับมาที่แผน Business Development ใน Section Online Marketing
E) เพิ่ม Hypothesis ตั้งสมมุติฐาน และ พัฒนา Problem Statement
F) จัดทำ Product mix + Marketing Mix และ พัฒนาเนื้อหา สินค้าและ บริการ
G) สร้างข้อมูลเชิง FACT
H) กลับไปแก้เงื่อนไขการให้บริการ
I) Research & Optimization Step.
J) สร้าง Input กลับเข้าไปในระบบ
K) มาเรียนรู้ และ สอบถาม เพื่อการดำเนินงานกับ SEARCH MONOPOLY โปรดติดต่อ ที่ Contact US
Leave a Reply