หาก Impression ตกลง เราจะทำอย่างไร ?
สำหรับ ท่านที่รับทำ SEO ทุกแขนง เมื่อถึงเวลา Impression เส้นนี้ drop ลง เหมือน ถ่านหมด.. บรรยากาศ เริ่ม “มาคุฯ” ระหว่าง Client กับผู้ให้บริการ
สิ่งที่ SEO จะทำต่อไป (วิชามาร) คือ ให้รีบหา ข้ออ้าง , Trend Dropped บ้าง หรือ Google Algorithm เปลี่ยนแปลงบ้าง เพื่อซื้อเวลาให้ลูกค้า อยู่กับเราไปอีก…
เทคนิค ห่วยๆ แบบนี้ พวก มือสมัครเล่น ใช้กัน – การซื้อเวลา ที่เหลือ เพื่อเอาไปซื้อ Backlink มาเติมนั่นเอง
… จะทำ ทำไม ?
Impression ตก ไม่ต้องหลอกลูกค้า บอกกันตรงๆ ว่ามัน ตก!
เอาแบบนี้ ธุรกิจ ของใคร ใครก็รัก ใครก็หวง ฉนั้น เมื่อ Impression ตกลงมา ก่อนอื่น ให้ เข้าสู่กระบวนการ War Room Part แรกก่อนเลย
1. SEO Service แอ่นอกรับ ว่า ดูแลอันดับไม่ดี
2. Check ไปเลย มี Link หายไปเท่าไหร่ ?
3. พัฒนา Backlink ด้วยวิธีการ คุณภาพ และประหยัดสุดๆ เพื่อให้ได้มาของความอุ่นใจ และ สบายใจ ในอีก 45 วัน
4. เข้าสู่ กระวนการ Business Developments.
การแก้ไข Impression แกว่งลง (สายยั่งยืน)
ปี 2018 แนะนำว่า อย่าทำ SEO แบบ Control Ranking, เพราะ ทำแล้ว ได้ Traffic ก็จริง แต่จะพายเรือวนทวนในอ่าง
หาก คุณทำ SEO ให้กับ ลูกค้ามานาน 3 ปีขึ้นไป แล้วเขายังอยู่กับคุณ นั่นหมายความว่า สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่ Ranking แล้วครับ มันผ่าน Stage การวัดใจไปแล้ว
เมื่อแปลง ลูกค้า ขาจรฯ ให้กลายเป็นลูกค้าประจำเราได้ หน้าที่ ความรับผิดชอบ เราควรจะเข้ามาสนใจรายละเอียด เรื่อง ความมั่นคงภายใน ให้มากขึ้น (เทคนิค ไม่ขอบอกนะครับ เพราะ วิชาชีพนี้ เป็นสูตรลับเฉพาะ ของ Search Monopoly ครับ)
สิ่งที่เราจะทำ เมื่อเห็นกราฟ Impression ตกลง แบบนี้ เราจะมองก่อนเลยว่า
ลูกค้า ต้องการ พัฒนาอะไร สิ่งไหน ?
และ ติดต่อลูกค้าของเรา โดยเตรียมความพร้อมไปทำการ รีวิว Business ของเรา ต่อไป
ถอยหลังกลับไปยาวๆ เพื่อทำความเข้าใจ และ อำนาจการต่อรองและการแข่งขัน
และผมจะค้นหาการแข่งขันที่ดีและหนักแน่นกว่าเดิม หรือ การกระโดดออกไปจากกล่อง พื้นที่สีแดง ของการแข่งขัน ที่ไม่มีประสิทธิภาพ
สิ่งที่เรา “Search Monopoly” ได้ research และทดลอง มาหลายปี กลับยิ่งพบว่า SEO มาในทาง DATA Schema เพิ่มมากขึ้น ใครยังบ้า Text อยู่ ก็ช่วยไม่ได้ครับ เพราะ มันเสียเวลาทำ อย่าง Text ที่คุณอ่านในเว็บเรา ยังไม่มี value เท่ากับการกลับมาสร้าง prototype จริงจัง และพัฒนา user behavior ที่เหมาะสมกับชุด query ที่เขา ค้นหาใน search engine.
พยายามศึกษา ความต้องการของ Google ด้วย ว่าเขา ต้องการ Data และ ต้องการ Result ที่ตอบโจทย์กับ user ของเขา ถ้าเรา พัฒนาผลงานแบบ win-win ทั้งสองฝ่ายก็รวย
ส่วน SME อย่าหัวหมอ ทำแต่ Ranking ไปอยู่ Top 1 แล้ว เอาแต่ ดัก “Lead” หรือ รอ In-Bound เข้าไป เพราะ ปี 2018 Google เริ่มรู้วิธีดัดหลัง ทั้งคนทำ SEO และ นักธุรกิจ ที่อืดอาดยืดยาด ไม่ได้เอาใจใส่มาโลกออนไลน์ และ เอาแค่ หวังผลประโยชน์ จาก Technology Online.
ปี 2018 นี้ SEO เอง ก็จะยกระดับ รับใช้ ธุรกิจ ที่เข้าใจ โลกของการ Search และ พยายาม เอา Policy ของ Google เข้ามาอยู่ในสูตรสมการ Monopoly ในแบบฉบับของเรา เท่านั้นเอง
ในปี 2018 – MOZ เอามุกเดิม มาปัดฝุ่นเล่นใหม่
ใน Moz มี แนะนำ กลุ่ม Keywords 3 กลุ่ม
High Volume Keywords
Mid Volume Keywords
Low Volume Keywords
มันก็คือ มุกเดิมๆ head, body, tail.
ทีนี้ เราจะสนใจ Keyword กลุ่มใดเป็นหลัก ?
สำหรับ Search Monopoly มองว่า การพัฒนา SEO ให้เกิด content เชิงกลยุทธ์ เราจะกลับไปมองเรื่อง Marget Segment
และการ หา specific selling point. ซึ่ง บอกกันตรงๆ E-Commerce ใหญ่ๆ ก็แอบทำครับ เพราะผมเคยทำที่นั่นมาก่อน
เมื่อทาง MOZ. กล่าวแบบนี้ ให้เราทำอย่างไร?
บอกได้เลย ไปพัฒนา Selling point และ สร้าง content สาย ธุรกิจ และ อธิบาย Process ของเราให้ ละเอียดมากขึ้น
ส่วน โครงสร้าง URL เป็นความลับ เทคนิคเฉพาะ ของ Search Monopoly และเราพัฒนารูปแบบใหม่ ที่ปรับได้ดีกว่าเดิม
ของ version 2014 ที่เราเคยขายระบบ Prefix- แบบ Goodguide.com อันนั้น ยังพอใช้ได้ แต่เราเอง ยังมีของที่ เหนือกว่า และ ไม่อยากปล่อยให้ใคร นอกจากลูกค้าของเราเท่านั้น
ส่วนเรื่อง Backlink สำหรับปี 2018 MOZ เห็นต่างกับ Search Monopoly.
MOZ: มองว่า Backlink ไม่สำคัญ และถูกลดความสำคัญลงมาก แต่มันยังไม่ตาย – MOZ. กล่าวแบบนี้ เพราะ Moz ต้องแบกรับ การ Acquired Backlink และ เข้าสู่การ maintain traffic แล้วต่างหาก เขาจึงต้องลดบทบาทของ Backlink ลงไป.
Search Monopoly: ประเทศไทย และ Asia, บอกได้เลยว่า Backlink สำคัญที่สุด เพียงแต่ “คุณ” สร้าง หรือ หามันเป็นหรือเปล่า ??
สรุป.
- Impression ตก.
- ให้เรา ดู Biz. Dev.
- พัฒนา Biz Dev.
- สร้าง Selling point.
- แล้ว ทำ Link Pyramid. ที่ฉลาดๆ แบบ LZD.
Leave a Reply