เราค้นพบ ข้อจำกัดของการทำ SEO ในประเทศไทย
Wisdom ที่ค้นพบใหม่ คือเรื่องของ Stability. กลุ่มของความเสถียร ในการพัฒนาระบบ
เอาแบบนี้ครับ ทางผม ทำงานในสาย IS. มานาน และ เข้าใจดีกว่า System ต้องมี User. และ user ส่วนใหญ่คือ มนุษย์
ที่นี้ครับ – อ่านบทความนี้ดีๆ อยากให้อ่านทุกบรรทัดอย่างระมัดระวัง.
ผมพยายาม เขียน งานเขียนให้ กระชับ และ สั้นที่สุด. โดย ไม่สนใจว่ามันจะ ติด SEO หรือไม่ บทความนี้ เน้นเนื้อ ให้ ผู้อ่าน ทำความเข้าใจครับ
บทความนี้ จะแสดง Diagram เข้าไปด้วย เพื่อ ผู้อ่าน จะได้เข้าใจ สิ่งที่ผมสื่อมากยิ่งขึ้นครับ
Internet Anxiety กับความไม่คุ้นเคยของ Client
ตอนเรียนที่มหาลัย เราไม่นึกไม่ฝันว่า คำสอนที่เขาบอกว่า “Human Error” นั้นจะมีอยู่ใน ระบบของการทำ SEO ด้วย
เดาออกไหมครับ ว่าหมายถึงอะไร ?
นั่นคือ ความหวาดระแวง, ความไม่มั่นใจ, ความไม่ชัดเจน, ความไม่ถ่องแท้ในคุณค่า ทำให้เกิด Anxiety และ ความไม่ลงรอยต่างๆ (Conflicts) ซึ่งนำไปสู่ การพัฒนาระบบในองค์กรณ์
ในปี 2018 เราค้นพบ ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า – Value ทางฝั่ง SEO นั้น แทบไม่มีบทบาทในสายงาน การตลาดออนไลน์ อย่างเป็นรูปธรรม ในความเป็นจริง การทำ SEO ต้องใช้เวลา และ ทรัพยากรณ์มากมาย มากกว่าจะให้ ใครคนใดคนหนึ่งมาแบกรับ
การทำ SEO ที่ดี ควรเป็นการสร้าง Business Community.
ผมเคยกล่าวกับ มนุษย์ทุกคน ที่ผมรู้จัก เพราะตั้งแต่ปี 2009. ผมได้อ่านบทความ ของนักกลยุทธ์ ชาวสิงคโปร์ เรื่อง 3 Spheres ของ web success.
และผมมองออกชัดเลยว่า ชัยชนะ ทางการตลาดออนไลน์ คือ การสร้าง Business Community. ไม่ใช่ ทำเว็บให้เสร็จๆ แล้วยิง Ads.
ทำไม เหล่า Guru ไม่ยอมบอก พวกคุณหล่ะ ?
Point คือ ถ้า Guru บอกพวกคุณ สิ่งที่จะหายไปคือ วงการ Digital Agency ตัวเป้งๆ นั่นเอง
ทำไมหล่ะ ??
เพราะ Business Units ต่างๆ สามารถ จับมือกันเอง สร้างทิศทาง กำหนด นโยบาย ได้ด้วยตนเอง อย่างอิสระ มากยิ่งขึ้น
บอกกันตรงๆครับ แค่ฝรั่งขี้นก เข้าเมืองไทยมาเขียน Blog แล้วอยู่ห้องพัดลมวันละ 400 บาท เขาสามารถสร้าง Business Community ได้ภายในไม่กี่วัน
พวกนี้ Backpacker ทั้งนั้น จับมือกันทำได้ง่าย ทำไปทำมา อำนาจต่อรอง มันก็มี เพราะมันเป็นชุมชน
หน้าที่ของคนทำ SEO ควรเป็น การสร้างชุมชน Business ที่ยั่งยืนครับ
ใคร ไม่สามารถ รับนโยบายนี้ ต้องไปหา Solutions อื่นๆ ที่เข้ากับนโยบายของคุณ
ใครชอบ Way นี้ ให้มาใช้ บริการของผม
กลับมาที่เรื่อง Internet Anxiety
ผมทำงาน กับลูกค้า ที่ไม่ได้ เข้าใจกระบวนการทำงานทางฝั่ง IT ทำให้เรา เจอ แรงเสียดทาน และ สิ่งทิมแทงเข้ามาเยอะมากๆ
พวกเขาคือ SME. สิ่งที่เขา นั่งนับตัวเลข คือ “หนี้” , “กำไร” , “ขาดทุน” เท่านั้น
เขามอง Value ของ SEO คืออะไร ? -> ส่วนใหญ่ คาดหวังเป็นยอดขายโดยทันที อยากได้ โทรศัพท์เข้ามาเร็วๆ
พวกเขาไม่ได้มองอะไร ? –> พวกเขา ไม่ยอมมองความสำคัญ คือ “ความเสี่ยง ของพวกเขาเอง”
กับดัก คือเวลา
และ ผม จะไม่มานั่ง งัดกับความเชื่อคน เพราะ เวลา ของผมเอง ก็มีจำกัด
ในความเป็น Technician และ Specialist มองและเข้าใจก้อน Value อันนี้ > หาก ฝั่ง Clients ไม่สามารถ เข้าถึง หลักการ ตรงนี้ได้
เราเอง ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะ Clients เอง จะเป็นความเสี่ยง ให้กับทิศทาง และ อุปสรรคในการพัฒนาระบบให้เกิดขึ้นได้จริง
SME > ทิศทาง > ลดหนี้ > เพิ่มกำไร
SEO > ทิศทาง > เพิ่ม มูลค่า Links > เพิ่ม Rank. > เพิ่ม Search Impression และ เพิ่ม Quality Traffic.
ลอง ตั้งสมการนี้ดูครับ
( ลดหนี้ ) + ( เพิ่มกำไร ) = ( เพิ่ม Links ) * ( เพิ่ม Rank ) * ( เพิ่ม Search Impression ) * ( เพิ่ม Quality Traffic )
สมการ ฝั่ง ซ้าย = สมการ ฝั่งขวา หรือไม่ ?
ถ้าไม่ใช่ นั่นหมายถึง คุณทำ SEO ด้วยความหวัง ลมๆ แล้งๆ ว่า เราไว้ก็ดีกว่าไม่มี
ไอ้คำว่า “มีไว้ ก็ดีกว่า ไม่มี” มีเหมือน ใส่ “พระเครื่อง” แบบนั้น ผมแนะนำ ว่า ไม่เหมาะกับ Solution ของ Search Monopoly ครับ
สำคัญที่สุด มองว่า ระดับ Operation การทำ SEO ต้องสัมพันธ์ กับ กลยุทธ์ทางธุรกิจ
วิถีการทำงาน ที่ทำแล้ว มีความ แน่นอน ชัดเจน
ทำ SEO แล้ว รู้สึกไว้ใจกันได้ มีการเติบโตร่วมกัน เหมือนเป็น Business Partner กัน.
ถ้าทำแล้ว มีแรงเสียดทาน แล้วทำให้ระบบมันพัง
แนะนำว่า ลองเปลี่ยนเจ้าอื่น / ลองหา Solution ใหม่ๆ ดู
ทางฝั่ง SEO แต่ละ Service Provider แต่ละราย รูปแบบ Style การทำงาน ไม่เหมือนกัน
ให้เลือก สิ่งที่ใช่ แล้วมันจะโตไปทั้ง 2 ฝ่าย จะเกิด สิ่งที่เรียกว่า “ความยั่งยืน”
อย่าลืม สมการ ที่ผม ระบุเอาไว้ ด้านบน ให้ พิจารณา ด้วยความจริงใจ และมีสติ.