>

ความยากของการทำ SEO – ความท้าทายจากวิธีการ

seo-challenges

seo-challenges

การทำ SEO เป็นเสมือนเป็นการพัฒนาผลลัพธ์ในระยะยาว เราต้องรู้ว่าเรามีแผนการพัฒนา การทำอันดับ SEO เชิงคุณภาพอย่างไร

อันนี้ต้องอาศัยปัจจัยของการทำ site structure ที่ดีกว่าเว็บคู่แข่ง การพัฒนา Logic ของ Internal link
การทำ SEO สมัยนี้ ในยุคปัจจุบัน ไม่สามารถทำมั่วๆได้แล้ว เพราะ Google Search Engine มีวิวัฒนาการของ อัลกอริทึม ที่ฉลาดขึ้น
Google Search Engine เข้าใจ wording ภาษาไทยมากยิ่งขึ้น การเขียนต้องมาจากการเขียนทางเทคนิคเชิงลึกจริงๆ จึงจะทำอันดับได้ดีกว่า
เว็บเสมือน แหล่งรวมก้อน DATA Input ที่สำคัญ เพราะการทำชุดข้อมูล (DATA) ให้กลายมาเป็น Content และหน้า Webpages ต่างๆ เสมือนเป็นการบอก Scope ของเว็บของเราว่าพูดเกี่ยวกับอะไรเป็นหลัก และอะไรเป็นรอง
การทำ Content ที่ไม่มีโครงสร้างที่เหมาะสมกับ SEO หรือไม่ได้ทำตาม Google Webmaster Quality Guideline นั่นก็จะทำให้คุณทำงานได้ช้าลงไปเรื่อยๆ จนตามคู่แข่งไม่ทัน

ข้อดีของการทำ SEO ด้วยตนเอง

หากเรารู้หลักการเขียนเนื้อหาเชิงคุณภาพ เราไม่จำเป็นต้องจ้างนักเขียนบทความเพื่อมาเขียนบทความที่ไร้คุณภาพให้เรา เหตุผลของ Search Monopoly เข้าใจอย่างดีว่า การเขียนบทความที่มีคุณภาพที่สุด ต้องมาจากเนื้อหาที่เราเชี่ยวชาญในศาสตร์นั้นๆ มากกว่าใครๆจริงๆ และมีผู้คนสนใจให้ความสำคัญกับบทความของเรา จึงจะติดอันดับได้ดีกว่า

การทำบทความที่ไม่น่าอ่าน หรือเข้าไปอ่านก็ไม่มีอะไรให้มาเรียนรู้ ก็ไม่สามารถทำให้เว็บติดอันดับดีๆขึ้นมาได้ การทำเนื้อหาเป็นเรื่องที่สำคัญ และสำคัญยิ่งกว่าคือการออกแบบโครงสร้าง URL ซึ่งเป็นหัวใจของการทำโครงสร้างการจัดอันดับของ Google Search Engine. เว็บที่ติด Index จะไต่สู่ยอดสูงสุด คือความลึกและคมสุดของชุดข้อมูล ผ่านการใช้งานที่ถูกพิสูจน์จาก users ว่าเป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพจริงๆ

ตอนแรกเราอาจติดอันดับยาก เพราะอะไร ?

เว็บของเรา ทำ Content เขียน เนื้อหาอย่างดีแล้ว ยังไม่มีอันดับที่ดีขึ้นเลย เพราะว่า เราต้องผ่านบททดสอบของเครือข่าย Spam Network หรือพวกที่ชอบสร้างสิ่งแวดล้อมเสมือนจริง หรือพวกที่ชอบสร้าง Backlink ที่บรรจุบทความที่เป็นขยะ อย่างเช่น Text Farming, Keywords rich farming พวกนี้ ทำให้เราเสียอันดับ และ มีความด้อยกว่าในการจัดอันดับในการแข่งขันในระยะต้นๆ แต่เราไม่จำเป็นต้องกลัว เรื่องการแข่งขันที่อ่อนด้อยกว่า เพราะว่าใน 1 วัน คนเราทำงาน เขียนบทความในเชิงคุณภาพได้ไม่เท่ากัน และพวกที่ Feed เนื้อหา Spam ไม่สามารถพัฒนางานเขียนเชิงคุณภาพในทั้งระบบได้ การไต่อันดับอาจใช้เวลาที่ยาวนานกว่า แต่ทาง Search Monopoly เล็งเห็นว่า การพัฒนาเชิงคุณภาพอย่างไรเสียก็จะชนะในระยะยาว และชนะอย่างถาวร เนื่องด้วย ศักยภาพในการเติบโตไปเรื่อยๆ เมื่อมีการ Break line ของการแข่งขันจนได้ที่ 1 เราไม่ควรหยุดการผลิตเนื้อหา คุณภาพที่ดีกว่า มีความสดใหม่กว่า และค้นหาช่องทางที่มี Authority ที่สูงกว่า โดยเฉพาะการขยาย Network ของพันธมิตรทางธุรกิจ ที่จะเป็นช่องทางในการขยายอำนาจในการจัดอันดับที่สูงกว่าและหลากหลายกว่าอย่างถาวร

การทำอันดับการแข่งขันที่แข็งแรงกว่า

อันดับแรกคุณต้องมาเรียนรู้การทำ SEO อย่างถูกวิธีที่ Search Monopoly เพราะที่นี่จะสอนคุรนอกจากเขียนบทความเชิงคุณภาพแล้ว ยังมีกระบวนการผลิตบทความที่มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ ที่ทำให้การทำธุรกิจของคุณไม่หยุดชะงักลง และทำให้คุณสามารถวัดเป็น Scale ของการเติบโตได้ ทาง Search Monopoly มีแนวทางการสอนเชิงเท๕นิคอย่างเช่นการวัดค่าและคำนวณสูตรของการทำ Visibility Impression ทาง SERP ซึ่งแม่นยำกว่าใคร และมีชุดโครงสร้าง วิธีคิดและกระบวนการทำ SEO (SEO Process) ที่มาจากบริษัทข้ามชาติใหญ่ๆ โปรดดูประวัติความเป็นมาของผู้เชี่ยวชาญจาก Search Monopoly และประสบการณ์การทำงานให้กับเว็บ E-Commerce ขนาดใหญ่มาแล้ว

จากประสบการณ์กว่า 8 ปีทำให้เราเรียนรู้ว่า การทำ SEO จะต้องใช้เวลาและความพยายามอีกทั้งเรื่องของความใจเย็น คิดละเอียดรอบคอบ เสมือนการแต่งรถให้ Engine แรงๆสักคันที่มี สมถนะที่ดีเยี่ยม ทาง Search Monopoly ได้เล็งเห็นว่า โครงสร้างของการผลิตบทความที่เชื่อมโยงวิธีคิดควบคู่ไปกับการออกแบบของ URL จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ทำให้เว็บของคุณมีหน้าที่ตาเหมาะสมกับผู้อ่าน Design ของเว็บคุณต้องรู้แล้วว่าควรจัดวางอย่างไร เพราะแต่ละเว็บหน้าตาของ Layout จะออกมาไม่เหมือนกัน การไต่อันดับมาจากการ Feed เนื้อหาที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำเป็นจะต้องเป็น Trend ล้ำแฟชั่นล้ำสมัยอะไร อาจเป็นเรื่องเก่าๆ ที่ถูกสะสมอย่างเป็นประเด็นอมตะที่มีคนเข้ามาเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาต่างหากที่เป็นปัจจัยของการเติบโตของ SEO หรือ Organic Traffic

Google จะทำผลลัพธ์ทางการค้นหาให้ดีขึ้นเอง

ศาสตร์ของการ Optimization ในรูปแบบของ Search Monopoly ที่ได้จัดวางไว้และสอนให้ผู้เรียนรู้เข้าใจในศาสตร์ของการจัดวางเนื้อหาใน Class Lecture “The War Room” เป็นสารตั้งต้นที่ดีที่ทำให้เว็บของคุณมีโอกาสที่เติบโตได้ดีและแซงคู่แข่งที่แข็งแรงลงไปได้ในช่วงเวลาที่ผ่านไป

การแข่งขันที่ไม่สิ้นสุดทาง SEO

ตั้งแต่ช่วง มิถุนายนปี 2008 เราได้คนพบรายงานของ VeriSign ไว้ว่า ใน Internet นั้นมีเว็บไซต์อยู่ราวๆ 168 ล้านโดเมนเนม หรือ เว็บไซต์ ได้จดบะเบียนไปตามแหล่งรับจดทะเบียนเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งหมดใน (TLD) top-level Domain Names เราสามารถค้นหารายงานนี้ ได้ที่ : www.verisign.com/static/044191.pdf และอีกอันหนึ่งจาก survey การสำรวจ ที่ทำขึ้นโดย NetCraft ในเดือน เมษายน 2009 เราได้ค่าประมาณการคร่าวๆ ว่ามีโดเมนราวๆ 231.5 ล้านโดเมน ที่จดทะเบียนเป็นเว็บไซต์แล้ว และในปัจจุบัน จำนวนของเว็บไซต์ก็จะมีขนาดที่เติบโตเพิ่มขึ้นไปอีกทวีคูณไม่รู้จบ และแต่ละ โดเมนก็จะมี SubDomain จำนวนมากๆ

ทั้งนี้ อาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่เว็บของคุณจะเป็น Niche ได้จริงๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่เว็บไซต์ของใครต่างๆ อาจไม่ได้ทำ SEO อยู่เลยก็เป็นได้ และนั่นอาจจะเป็นโอกาสที่ดีของคุณที่จะทำอันดับใน Niche Market นั้นๆ

คุณควรเข้ามาเรียนรู้เพื่อหา Niche Keyword และ Niche Market ที่ซ่อนอยู่ใน Class “The War Room” การสะสม Niche Keyword เป็นเรื่องที่ไม่ใหม่มาก แต่กระทำได้อย่างไม่สิ้นสุด เพราะ High Demand มาจากการค้นหา Niche และสร้าง Niche ขึ้นมารองรับไว้ และเราจะเป็นเจ้าไม่กี่เจ้าที่รองรับเรื่องตลาดเฉพาะทาง ที่ไม่มีใครเหมือน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการพัฒนา Niche หรือ Content ว่าจะลึกลงรายละเอียดได้มากน้อยแค่ไหน