ประสบการณ์ แย่ๆ ในการทำงานให้กับ SEO Agency

ประสบการณ์แย่ๆ ทำ SEO กับ Agency

** หมายเหตุ ** SEO Agency ในประเทศไทย หากคุณต้องการใช้บริการ คุณควรศึกษารูปแบบของธุรกิจของคุณว่าเหมาะสมกับ SEO Agency เจ้าไหน หรือแนวทางการทำงานของคุณอาจจะเหมาะกับ บริษัท SEO เล็กๆ ที่ไม่มีทีมงานจำนวนมาก คุณควรใช้เวลาศึกษาการทำ SEO และ ปรึกษาผู้ให้บริการรับทำ SEO หลายๆเจ้า เพื่อรับทราบรูปแบบการดำเนินงาน และ โดยเฉพาะ เทคนิคการทำ Backlink ของแต่ละรายว่าแตกต่างกันอย่างไร ซึ่ง การทำ SEO มันเป็น fundamental ที่กว้างมาก มีทั้งกลยุทธ์ ที่ไม่เหมือนกัน 

หากคุณต้องการคนที่จะมาช่วยทุ่นแรงในงานทำ SEO แบบไม่ต้อง custom หรือต้อง deal กับธุรกิจคุณมากๆ หรือไม่จำเป็นต้องเข้าใจธุรกิจของคุณ คุณสามารถใช้บริการ SEO Agency มืออาชีพที่หาได้ใน Google Search Engine โดยค้นหาคำว่า “SEO Agency ประเทศไทย” หรือ “บริษัทรับทำ SEO” 

ก่อนอื่น บทความนี้ผมไม่ได้เขียนมาเพื่อชี้นำ หรือให้ร้าย SEO Agency แต่อย่างใด เพียงแต่ มาแชร์ประสบการณ์ ที่เคยทำใน SEO Agency แล้วรู้สึก ไม่ work หรือ คิดว่าไม่ใช่แนวทางการทำ SEO ของตนเอง จนเป็นที่มาของการจัดตั้งบริษัท Search Monopoly 

 

อนึ่ง วงการ SEO ในไทย สามารถทำเม็ดเงินได้ประมาณ 770 ล้านบาท (2024) ต่อปี

โดย Search Monopoly เป็นเพียงแค่บริษัทเล็กๆ ที่มองเห็นโอกาส และสร้างพื้นที่จำกัดสำหรับธุรกิจของตนเองในตลาด SEO ไว้เพียงแค่ 0.37% (ไม่ถึงแม้แต่ครึ่งเปอร์เซ็นต์ในตลาด SEO) 

 

ผมสร้างบริษัทมาเพื่อการสร้าง Solution ที่ตอบโจทย์ Partner หรือลูกค้าทางธุรกิจ จำนวน 8 รายเท่านั้น เพราะผมคำนวณมาแล้วว่า การรับงานแบบ High Efficiency สำหรับ SEO ที่มีประสบการณ์ยาวนาน 15 ปีขึ้นไป หากทำได้เต็มคุณภาพ และรักษาคุณภาพ ผมคิดว่าผมควรมีลูกค้าที่ทำ SEO กับผมเพียงแค่ 8 รายเท่านั้น

 

และต่อไปนี้ผมจะอธิบายว่าทำไม ผมไม่คิดกลับไปทำงานให้ SEO Agency โดยเนื้อหาเขียนจากประสบการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก จากการทำงานกับ SEO Agency รายหนึ่ง และตัดสินใจออกมารับงานเอง โดยมีสาเหตุมาจากสิ่งดังต่อไปนี้

สิ่งที่เป็นประสบการณ์แย่ๆ ที่เคยทำงานใน SEO Agency

 

  1. Over Commitment ของ Sales – ช่วงเดือนแรกที่ได้ก้าวเท้าเข้าไปทำงานให้ SEO agency สิ่งที่เกิดขึ้น ที่ได้แอบได้ยิน Telesale พูดกับลูกค้า มักมีแต่คำโกหกและหว่านล้อมให้ลูกค้าสนใจบริการ SEO ของพวกเขา โดยที่ไม่ถามทีมสักคำว่าทำได้หรือไม่ มีข้อจำกัดอะไร คือเน้นแต่จะขายงานไว้ก่อน แล้วค่อยโดยนปัญหามาให้ทีมงาน SEO นั่นแหละ และปิดงานขายจำนวนหลายร้อยต่อเดือน งานล้นมือจริงๆ 
  2. การทำงานที่เป็น Pattern จนเกินไป – การได้มีประสบการณ์ทำงานให้ SEO agency แล้วเกิดปัญหาอย่างมาก คือเราต้องทำ site audit ที่เป็น format ตามมาตรฐานที่ทาง Agency กำหนดมาให้เราทำ และยากที่จะออกแบบรายงานของตนเอง โดยส่วนใหญ่ ปัญหาแบบ A,B,C สามารถแก้ไขง่ายๆ หากเราทำ SEO ด้วยตนเอง หรือทำงานให้บริษัทที่เขามีความเข้าใจเรื่อง SEO อยู่บ้าง โดยการทำงานแบบอ้างอิงตาม format เป๊ะๆ กลายเป็นไม่ใช่การแก้ปัญหาให้ลูกค้า แต่เป็นการสร้างผลประโยชน์ให้กับ SEO Agency เพื่อบอกลูกค้าว่า ฉันทำงานแล้วนะ ฉันทำงานแบบมีแบบแผนนะ ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้ว SEO เป็นง่าย ที่ไม่มีแบบแผน ปรับนั่นจูนนี่ ทำแต่ละวันไม่ซ้ำกัน และเกิดไอเดียใหม่ๆ แบบไม่มีข้อจำกัด จนไม่สามารถเอามาใส่ใน Report ได้เลย
  3. ขาดความยืดหยุ่น – จากข้อ 2 จึงเกิดข้อ 3 ในเรื่องความยืดหยุ่นในการทำงาน บางทีการทำงาน SEO ที่เจ๋งมากๆ เกิดจากการนั่นดื่มเบียร์กับลูกค้า และคุยเรื่อยเปื่อยเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงต่างหาก อันนี้ไม่ได้พูดเล่น แต่อาชีพ SEO มันถูกออกแบบให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมหมายถึง style การทำงานของคนทำ SEO ที่เทพจริงๆ คือไร้แบบแผน ไม่เน้น report แต่เน้นกระบวนการคิดสร้างสรรค์ 
  4. ขาดความเป็นธรรมชาติ – Organic Traffic คือนิยามของ ผลลัพธ์จากการทำ SEO การทำเนื้อหาให้เป็นธรรมชาติ จะต้องกลั่งกรองมาจาก inner ของนักเขียน ซึ่งในตลาด ซับงาน ซึ่ง agency ไม่สามารถควบคุมคุณภาพงานได้ โดยงานเขียนที่สามารถทำ conversion ให้กับเว็บไซต์ธุรกิจได้นั้น จะต้องมีระดับงานเขียนที่มีประสบการณ์เชิงลึก ฉนั้น ผู้ที่รับทำ SEO จริงๆจะต้องอยู่ในระดับของธุรกิจนั้นได้อย่างลึกซึ้ง หรือมีประสบการณ์ที่โชกโชนในวงการธุรกิจของลูกค้า จึงสามารถทำให้ผลลัพธ์สัมฤทธิ์ผลได้
  5. ไม่ได้ลองไอเดียใหม่ๆ – การทำงานกับ Agency ไม่มีการลองผิดลองถูก เพราะถูกตีกรอบมาแล้ว ดังนั้นการพัฒนางานจึงเกิดขึ้นได้แคบ และไม่มีความหลากหลาย จนกลายเป็นข้อมูลขยะ และทำงานเดิมๆวนๆซ้ำๆไปไม่มีสิ้นสุด ถือเป็นเรื่องที่เปลืองต้นทุน และเวลาเป็นอย่างมาก
  6. เวลากระชั้นชิด – การทำงานแบบมีกรอบเวลาอันจำกัด อาจดูเป็นเรื่องดี แต่หากมาทำงานในสายงาน SEO จริงๆ ควรมีกรอบเวลาที่กว้าง และ มีปัจจัยในเรื่องของการ research เป็นอย่างมาก
  7. ข้อจำกัดของความเป็นมนุษย์ – มนุษย์ ที่สามารถทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรรับงานได้ไม่เกิด 8 ราย เพื่อให้ได้การดูแลที่มีประสิทธิผลอย่างสูงสุด แต่ Agency นั้นให้คนทำ SEO 1 คนต้องดูแลลูกค้ามากกว่า 40 account ด้วยกัน นั่นจึงทำให้ประสิทธิผลต่ำลง
  8. การบี้ยอด และเป้าหมาย ที่เกินความเป็นจริง – การทำงานภายใต้แรงกดดัน ทำให้งานออกมายิ่งแย่และไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า
  9. ความเครียดบทบังหนทางการแก้ปัญหาแบบ Simple – การทำ SEO ต้องทำให้การทำงานนั้นเป็น simple มากที่สุด

ความคิดเห็นต่อ SEO Agency ในโลก Internet

 

ในขณะที่เขียนบทความอยู่นี้ ผมเลยลองไป Research ดูว่าผู้คนใน Internet เขามีมุมมองต่อการทำงานใน SEO Agency เป็นอย่างไร 

 

จากกระทู้ Reddit (เข้าไปอ่าน version เต็มได้ที่) https://www.reddit.com/r/SEO/comments/9midcr/why_i_think_working_at_an_seo_agency_is/

การทำงานกับ SEO Agency

ฝรั่งคนนี้ได้ตั้งกระทู้เป็นเวลา 7 ปีแล้วใน Reddit หัวกระทู้ตั้งว่า “ทำไมการทำงานให้กับ SEO Agency จึงไร้ความหมาย ในนิยามของการเติบโตทางทักษะ และการก้าวหน้าในสายอาชีพนี้”

 

ตรงนี้ผมรู้สึกโชคดีมากๆ ที่ผมทำงานให้ SEO Agency เพียงแค่ 6 เดือน เห็นกระบวนการทำงานอย่างชัดแจ้ง และ รู้ได้ทันทีว่า สิ่งที่เราทำอยู่ใน SEO Agency นั้น ไม่มีค่าพอเท่าที่ควร และเมื่อมองถึงอนาคตหน้าที่การงาน SEO แล้ว ที่ต้องมานั่งทำงานที่ไม่มีคุณค่า ไม่ได้ก่อให้ลูกค้าเกิด Value ทางธุรกิจได้ดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังใช้ทักษะเดิมๆ ใช้เครื่องมือช่วย 90% ไม่ได้พัฒนาทักษะ Soft-skills, Hard Skills และที่สำคัญ ทำอันดับสู้ ทำเองไม่ได้ แล้วต้องมาแบกรับลูกค้า 50 ราย แถมทำงานที่เรียกได้ว่า ไร้คุณภาพให้ลูกค้า ผมรู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า ไม่เกิดประโยชน์ และอนาคตคงหางานดีๆทำไม่ได้เป็นอย่างแน่แท้ ผมจึงตัดสินใจออกมาจาก SEO Agency ได้เพียง 6 เดือน แต่นั่นก็เกิดความคุ้มค่า เพราะเราได้เห็นจุดอ่อนของ SEO Agency และเห็นช่องว่างในการทำธุรกิจ SEO ตามมาในอนาคต

 

ทำงานไม่มีคุณภาพ

ฝรั่งรายนี้ คอมเพลนมาว่า เขาไม่สามารถดำเนินการได้โดยตรง ในสิ่งที่ควรทำที่คิดว่ามันถูกต้อง

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผม : อันนี้ผมมองว่า Agency ส่วนใหญ่ กำหนดนโยบาย ว่างานแต่ละ Case ควรให้เวลามากน้อยแค่ไหน เพราะ Specialist 1 คน ถือหลาย account อาจจะมากถึง 40-50 ราย เพราะฉนั้น เขาจึงมีเวลาจำกัดมากๆ ในการทำงานให้กับลูกค้า 1 ราย ลองคิดดูว่า เขาสามารถผลิตชิ้นงานที่เป็นระดับ Epic หรือเอาเวลามาวิเคราะห์ User Journey หรือทำ Business Analysis เพื่อปรับปรุงคุณภาพเนื้อหาได้อย่างไร ? ผมจึงคิดว่าตอนทำงานให้ Agency มันเหมือนเอาลูกค้ามาพายเรือวนในอ่าง งานไม่ได้เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และไม่ได้ทำสิ่งที่ควรจะทำได้เท่าที่ควร อีกทั้งต้องมาทำงานหนักกว่า คนที่ทำ SEO ให้กับบริษัทเสียเองอีก – เมื่อเปรียบเทียบจากประสบการณ์ที่ได้ทำ SEO ในบริษัทใหญ่ๆ ที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญแบบมืออาชีพอย่างจริงจัง ผลงานที่ออกมาทำได้ดีกว่า ทำงานได้ราบรื่นมากกว่า และได้ผลลัพธ์ที่บอกได้ว่าเป็นที่น่าพอใจ แถมให้ทีมงานและเหล่าผู้บริหารได้เรียนรู้กระบวนการทำงาน SEO ที่ถูกวิธี และไม่ได้ใช้รูปแบบการทำงานของ Agency อย่างสิ้นเชิง

work-with-seo-agency

มีคำตอบ จากคุณ TheMacMan – ซึ่งความเห็นนี้ผมเห็นด้วยในแง่ดีของการได้ทำงานกับ SEO Agency แง่หนึ่งคือเราสามารถมีโอกาสได้ทำงานกับหลากหลายธุรกิจไปพร้อมๆกัน ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มากกว่าการที่เราไปนั่งทำงานในบริษัทใดที่หนึ่งที่เดียวนานๆ ตรงนี้สามารถช่วยให้เราเจอปัญหาที่หลากหลาย แล้วทำให้เราเรียนรู้ได้ไวกว่า

4-work-with-seo-agency

ความเห็นจากคุณ FUT-Dax , เขาว่า ถ้าเป็นบริษัทที่ต้องการทำ SEO เขาแนะนำให้หา SEO Consult เก่งๆ ดีกว่าที่จะใช้บริการ SEO Agency ขนาดใหญ่

 

ซึ่งตรงนี้ผมเองก็มีประสบการณ์โดยตรง เพราะเคยทำงานให้กับ บริษัท E-commerce ขนาดใหญ่ เขาได้จ้าง SEO Consult จากเยอรมัน แล้วเอามาช่วยบริหารทีมงานที่ประเทศไทย ตรงนี้เองที่เป็นจุดเปลี่ยน และผมเห็นหนทางในการทำธุรกิจ SEO ที่มีคุณภาพ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า สิ่งที่เราควรทำเราต้องทำให้ทีมงานของลูกค้ามีความเก่งขึ้น พัฒนาทักษะการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ input ของ SEO ให้คำปรึกษาแนะนำในทางที่ดี และเหมาะสม อย่างตรงไปตรงมา และให้เวลาในการครุ่นคิดแก่ธุรกิจของลูกค้าในแต่ละรายอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ตรงนี้เองที่ผมได้เรียนรู้มาจาก SEO ระดับเทพ จากทางฝั่ง Europe และนำมาปรับใช้ในธุรกิจของตนเอง

 

Comment นี้ทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่ๆ และผมเองเจอปัญหานี้บ่อยๆเช่นกัน 

ปัญหานี้เป็นปัญหา Classic เนื่องจาก SEO เห็นผลลัพธ์ช้ามาก คือต้องรอ 3-4 เดือนกว่าสิ่งที่เราได้ทำให้กับลูกค้า หรือนายจ้างเรา ได้เห็นสิ่งที่เราทำลงไปนั้น จะส่งผลในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นกับ comment นี้คือ เขาทำ SEO ให้กับบริษัทหนึ่ง แล้วสุดท้าย บริษัทไปจ้าง Agency เพราะอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น กระนั้นพอเริ่มจ้าง Agency ตอนนั้นมี Google Update Algorythm พอดี ทำให้ traffic เข้าเว็บจาก 20K ไปเป็น 200K โดยที่ SEO Agency ทำเพียงแค่ ปรับปรุงบทความเก่าๆ ที่ไม่ได้มี traffic เข้ามา และแค่เพิ่ม Alt Text ใน Image เท่านั้นเอง

คำถาม 

 

คนเข้าเว็บ 20K ไปเป็น 200K เป็นผลงานของ คนทำ SEO ให้บริษัทก่อนหน้านี้ หรือ เป็นผลงานของ SEO Agency ?

ผมมักมีประสบการณ์ประมาณนี้ พอออกจากบริษัทปุ๊บ SEO traffic ดันเพิ่มขึ้นสูงขึ้น 3-4 เท่าจากที่เคยทำมา ที่ต้องออกเพราะ หัวหน้า และ ผู้บริหาร ไม่เข้าใจในเรื่องกระบวนการทำ SEO และต้องใช้เวลารอคอย คือพูดง่ายๆ ต้องใจเย็นให้มาก รีบร้อนไม่ได้ พอโดนกดดันมามากๆ ก็เลยไม่อยากแบบรับความคาดหวัง เลยหางานใหม่ แล้วทำการ Up เงินเดือนของตนเองเสียเลย สุดท้ายพอเวลาผ่านไป 2 ปี traffic ของบริษัทที่ผมได้ทำให้ ก็เริ่มตกลดลง เพราะคนมารับช่วงต่อ เอาวิธีแย่ๆ ที่ไม่ควรทำ ไปทำ SEO ให้กับบริษัทนั้นแทน

คอมเม้นต์นี้ อธิบายว่า การทำ SEO นั้นใช้เวลานานมากกว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น โดยส่วนใหญ่ผู้คนไม่รู้เลยว่าการทำ SEO ที่ดีสุดนั้นต้องทำอย่างไร คนส่วนใหญ่ที่มีอำนาจตัดสินใจ ก็กระโดดเข้าไปใช้บริการ SEO Agency อย่างรวดเร็ว – นั่นอาจเป็นการตัดสินใจจากความเชื่อ โดยคิดเอาเองว่า SEO Agency คือผู้วิเศษที่สุด และสามารถนำพาธุรกิจของพวกเขาไปสู่ความสำเร็จได้จริง

ส่วน link นี้ลองไปหาอ่านเพิ่มเติม มี comment แชร์ไอเดียตลกๆ ที่ถากถางคนทำ SEO ด้วยกันเองด้วย

https://www.reddit.com/r/SEO/comments/sdpoxa/how_do_so_many_agencies_get_away_with_doing_bad/ 

 

ถ้าอ่านแล้วคุณจะเข้าใจว่าคนทำ SEO โดยทั่วไปมีกี่ประเภท และมีบคคลิกที่แตกต่างกันอย่างไร แถมด้วยความเชื่อแปลกๆ ที่อ่านแล้วเข้าใจเลยว่า พวก SEO มือใหม่ หรือพวกท่องๆตามกันมาจากการไปหาอ่านใน web blog ที่สร้างโดย content ราคาถูกๆ เขาเอาเป็นองค์ความรู้หลักในการประกอบวิชาชีพนั้นเป็นอย่างไร ผมอ่านแล้วชอบการถากถางนี้มากๆ แต่มันยาว เลยไม่ได้เอามาลงใน blog บทความนี้ให้นะครับ

 

ตัวอย่าง :: 

7-work-with-seo-agency

มาต่ออีกหนึ่งความคิดเห็นใน Linkedin

https://www.linkedin.com/posts/andrew-holland-seo_why-bad-seo-agencies-are-getting-worse-activity-7222911938165387264-_gF7/ 

9-work-with-seo-agency

โพสของคุณ Andrew Halland ทำให้ผมได้เข้าใจตนเองว่าทำไมผมจึงไม่กลับไปทำให้ SEO Agency

สิ่งที่ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคือ ถ้าเรามีประสบการณ์ในการทำ SEO ขั้นสูงจนชำนาญ เราเองอยากมีพื้นที่ในการทำ SEO ในแบบที่เราถนัดและเป็นประสบการณ์แท้จริงของเรา โดยไม่อยากถูกกำหนด direction หรือเส้นแบ่งขอบเขตการทำงานใน SEO Agency Environment 

8-work-with-seo-agency

โพสนี้แสดงให้เห็นสิ่งที่คล้ายๆกันในวงการนี้คือ เจ้านายที่แย่ๆ เจ้าของ Agency ที่ไม่ดี หรือรูปแบบการทำงานที่ห่วย

 

มันจึงทำให้ Senior SEO กลายมาเป็นฟรีแลนซ์ นั่นทำให้เกิด Turn Over ในวงการ SEO ที่สูงมาก เพราะคนทำ SEO ที่เก่งระดับมืออาชีพนั้น สามารถหาเงินได้มากกว่าทำงานให้ SEO Agency และทำงานได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า อีกทั้ง Satisfaction Rate ของ ลูกค้าสูงกว่า แถมเราคุยโดยตรงกับลูกค้าโดยไม่ผ่าน AE และไม่มี Sale ซึ่งต้นทุนการบริหารงานทำได้ถูกลงหลายเท่าตัว อีกทั้ง เราเข้าถึงปัญหาลูกค้าและทำให้ลูกค้าเข้าใจในสิ่งที่เราทำได้ดีกว่าทำให้ SEO Agency

 

อีกบทความที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ Bad SEO Service ที่เขียนโดยคุณ Gabriel Nwatarali เมื่อ 7 ปีที่แล้ว

10-work-with-seo-agency

เขากล่าวถึงปัญหาที่เจอในบริษัทรับทำ SEO แย่ๆ โดยหากคุณค้นหาเร็วๆ ด้วยคำว่า “รับทำ SEO” เรามักจะพบ Agency จำนวนมาก เสนอจัดทำ SEO Audit ให้แบบฟรีๆ เพื่อดึงดูดหลายๆธุรกิจให้มาใช้บริการ

 

หรือแม้แต่ เราไปเจอ List รายการ พวก “บริษัทรับทำ SEO ที่ดีที่สุด” โดย Agency พวกนี้จ่ายเงินเพื่อให้ได้อยู่ใน Directory List เหล่านั้น หรือแม้แต่ Email ที่ส่งมาว่าสามารถทำให้เว็บของคุณติดที่ 1 ใน Google ได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเจ้าของธุรกิจเหล่านี้จะประสบชะตากรรมเดียวกันคือ พวกที่รับทำ SEO ไม่ยอมตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาหรือให้ความรู้ที่แท้จริงได้อย่างถ่องแท้ว่า SEO มันทำงานอย่างไร

สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นปัญหาต่อเจ้าของธุรกิจ ที่ใช้งานบริษัทรับทำ SEO หรือ Agency SEO คือ.

 

  1. ใครคือคนทำงานให้เรา – สิ่งที่พบเจอบ่อยๆคือ พวก Agency เหล่านั้น คนที่ทำ SEO เก่งๆ ได้ค่าตัวน้อยเกินไป และทำงานหนักกว่าทำงานประจำ 5-6 เท่า พวกเขาจึง Turn Over อย่างรวดเร็ว เมื่อไม่มีคนเก่งมาทำงานให้ พวก SEO Agency เกิดปัญหา และต้องใช้คนที่ไม่มีประสบการณ์ที่แท้จริงในด้าน SEO ทำงานให้แก่ลูกค้า โดยในบทความเห็นพ้องกับสิ่งที่ผมเจอมาคือ ทาง AGency พยายาม pitch งานและทำทุกอย่างให้ ลูกค้าเซ็นสัญญา เมื่อทำงานจริงก็โยนงานมาให้ Junior ทำ โดยไม่ได้รับการคุมงานโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง model นี้เพื่อ Agency จะได้ลดต้นทุนและรับลูกค้าได้ในจำนวนมากๆ 200 – 500 รายในแต่ละปี โดยจ้างผู้เชี่ยวชาญได้ไม่กี่คน นอกขั้นเป็นพวก Entry-Level
  2. ทำงานได้เสร็จจริงไหม เมื่อได้รับ Audit Report จาก SEO Agency ? – Agency มักใช้เครื่องมือ Auto ในการทำ report ที่สืบค้นหา issue มากมาย และอาจไม่จำเป็นต้องทำตามนี้เสียด้วยซ้ำ และ issue ใน report มากมาย ก็ไม่สามารถทำได้จริง และไม่มีวันเสร็จ ส่วน SEO Consult ที่ดี เขามักจะทำ Operation Document ที่สามารถนำไปแก้ไขได้จริง และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งอธิบายอย่างโปร่งใส ว่าทำไมจึงต้องแก้ไขสิ่งเหล่านี้

11-work-with-seo-agency

เป็นที่น่าเสียใจอย่างมาก และเป็นข่าวร้าย และ ตลกร้ายในคราเดียว เพราะ คนทำ SEO เก่งๆ มักไม่อยู่ใน SEO Agency เท่าใดนัก นอกจากช่วงนั้นไม่มีที่ไปจริงๆ หรืออยู่ในช่วงหางานใหม่ โดยส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องของผลตอบแทนที่สมเหตุผล และ work load ที่ต้องทำ คือทำแล้วไม่คุ้มค่าแรงนั่นเอง

 

พูดง่ายๆ ถ้าให้ผมทำให้ SEO agency  ในประเทศไทย ถ้าให้ผมถือ 40 accounts ในมือ เงินเดือนผมควรจะได้รับ คือ 600,000 บาท ไม่ใช่ 150,000 บาท นะครับ ^__^ 

แถม SEO agency เจ้าใหญ่ๆ กดเรทราคาค่าแรง Senior SEO Manager เหลือแค่ 70,000 บาท แบบนี้เรียกว่าหน้าเลือดเกินไปแล้วครับ ^__^ 

ทางเจ้าของธุรกิจเอง คิดว่า คนที่ได้เงินเดือน 70,000 แล้วต้องดูแลลูกค้า 40 รายต่อเดือน คุณคิดว่า Skill SEO เขาเก่งจริงไหมครับ ?? เพราะถ้าคนเก่งๆทำ SEO 40 ราย เขาควรได้รับเงินที่ 600,000 บาทครับ

 

ตอนออกมารับทำ SEO เอง

 

  1. KISS – keep it simple stupid
  2. มีเวลาพักผ่อนสมอง ไม่ล้า
  3. รับลูกค้าน้อยราย แต่รายได้มากกว่าทำงานให้ Agency
  4. ทำงานที่มีคุณภาพที่ให้ได้มากกว่า
  5. สามารถ support ลูกค้าได้เอง ไม่ต้องผ่าน AE
  6. ลดต้นทุนการจ้าง Sale และ ต้นทุน AE
  7. ลดต้นทุนพนักงาน SEO ที่ไม่จำเป็น
  8. ตัดต้นทุนการ maintain ค่าแรงส่วนเกิน
  9. จ้าง outsource เฉพาะในจุดที่จำเป็นต้องแก้ปัญหาจริงๆ
  10. Add-on เพิ่มแบบไม่ต้องค้ากำไรเกินควร (Over Charge)
  11. ทำเนื้องาน SEO จริงๆ ไม่ต้องทำงานหน้าฉาก
  12. ไม่ต้องเสียเวลาทำ Report ที่ไม่จำเป็น
  13. เราสามารถผลิตไอเดียใหม่ๆ ได้มากกว่า
  14. ความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมการทำ Marketing
  15. มีเวลามากกว่าในการเรียนรู้ธุรกิจของลูกค้า
  16. ได้มีโอกาส แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อการตัดสินใจทางธุรกิจของลูกค้า
  17. การมีส่วนร่วมในการทำงาน ระหว่างลูกค้า กับการรับทำ SEO ด้วยตนเอง
  18. ทำในสิ่งที่อยากทำ ไม่ต้องทำทุกโปรเจคให้เหมือนๆกัน
  19. งาน Custom made ทำได้มากกว่า Agency
  20. สร้างขอบเขตการทำงานได้ไม่จำกัด

 

ธรรมชาติของ SEO

  • SEO ไม่มีกรอบที่ต้องขีดเส้นให้ชัด
  • ลองผิดลองถูกอยู่ตลอด 
  • สิ่งที่เราเคยทำได้ดี เมื่อ 2 ปีที่แล้ว อาจไม่ดีในปีถัดไป แต่กลายเป็นว่า อาจกลับมาใช้ได้อีกในอีก 5 ปีข้างหน้า
  • ความ Random สำคัญกว่า Systematic
  • ทำ SEO ด้วยความเข้าใจธุรกิจ และ การเอาใจใส่ “ผู้ใช้งานของเว็บลูกค้า”
  • ไม่ต้องทำทุกอย่าง Perfect – SEO วัดความถึก / วินัย / สม่ำเสมอ
  • การสร้างนิยาม และ ความแตกต่าง ในแบบฉบับของคุณเอง
  • ความน่าเชื่อถือ มากกว่า Buzz word
  • ความจริงใจ และ เอาใจใส่ / การสร้างภาพลักษณ์จากพื้นฐานความจริง
  • รักษาสัจจะ ไม่ Over Claim
  • SEO สำหรับคน Gen Y, Gen Z ต้องเปลี่ยนแนวการทำเนื้อหา
  • SEO ไม่ใช่ หลักการ Marketing 101 และ ไม่มีสูตรตายตัว