ผมคิดเสมอว่า – สิ่งที่ผมทำงาน ผมเสียเวลาให้กับลูกค้า และลูกค้าเอง ก็เสียเวลาให้ผม
ทำงานระบบ ผมจะมีลูกค้า หรือ ผู้ใช้งานระบบ หลายๆท่าน เข้ามาเรียนรู้พร้อมๆกัน ฉนั้นแล้ว เวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ผมตั้งใจทำงานเชิงคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ ฉนั้น ทำงานให้ใคร ทำงานให้ถึงที่สุด ไม่กั๊ก ทำเต็มที่ครับ
ทุกๆเวลาที่เสียไป ผมแก่ลงทุกขณะ ลูกค้าก็แก่ลงทุกขณะ จะมาล้อเล่น หรือมาลองกันไม่ได้ ทำแล้วทำจริงเลย
เลือกหา สิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุด ทำความเข้าใจกัน Mind SET ตรงกัน แล้วจึงมาร่วมงาน
ผมถือว่า การทำงานให้ใคร ลูกค้าคนนั้น เป็นเพื่อนใหม่ ที่ผมรู้จัก และเป็น Partner ทางธุรกิจ เปรียบเสมือนผมเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของ ลูกค้าเช่นกัน
ผมตั้งใจทำงานเชิงคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ ฉนั้น ทำงานให้ใคร ทำงานให้ถึงที่สุด ไม่กั๊ก ทำเต็มที่ครับ
งานที่ผมทำ เปรียบเทียบกับในตลาด เขาขายงาน แบบ รับและโครงการ ด้วยงบประมาณ 2 – 5 ล้านต่อปี
แต่ผม เอามาทำในแบบตัดต้นทุน ไม่ต้องผ่าน Agency
ไม่มีค่า Waste (สิ้นเปลือง) ให้กับพวก ฝ่ายขาย
ไม่มีค่า Waste (สิ้นเปลือง) ให้กับพวก ฝ่ายดูแลลูกค้า
ไม่มีค่า Waste (สิ้นเปลือง) ให้กับพวก การออกบู๊ท หรือ ระดมโฆษณา เพื่อให้ได้ลูกค้าหลายๆราย
ผมหาลูกค้า โดยใช้ E-mail ติดต่อสื่อสาร ทำความเข้าใจกัน
ผมใช้เวลาทุกๆวัน ในการบริหารงาน พัฒนางาน ไม่เอาเวลาไปทำอย่างอื่นให้สิ้นเปลือง
การทำธุรกิจของผม ไม่มีคำว่า
เอาเงินลูกค้า ไปออกงาน ไปตัดริบบิ้น ไปซื้อโฆษณาทาง TV หรือ Radio เพื่ออวดอ้างความสำเร็จของตน
บนความสำเร็จของเรา กลายเป็น การเอาเปรียบชาวบ้าน แบบที่เราเห็นๆกันอยู่
เงินลูกค้า ทุกบาททุกสตางค์ จะถูกโยนกลับเข้าไปในระบบการผลิตให้มากที่สุด
นี่คือ หัวใจของ Online MArketing
“เวลา = เงิน”
ฝรั่ง เรียกว่า Time Equal to Moneys
นี่คือบทแรกที่ผมเรียนรู้ และยังเตือนสติตนเอง
เราเหลวไหลไม่ได้ เราแบกรับ ความคาดหวังของลูกค้า
เราต้องทำงานอย่างขยันขันแข็ง มุมานะ ไม่สุงสิงเรื่อยเปื่อยกับ สังคมภายนอกให้มาก ไม่ไปโปรโมตตัวเอง
เอาเวลา ไปช่วยลูกค้าโปรโมต พัฒนางาน สร้างผลผลิต กำลังผลิต
ผมทำงาน Operation ไม่ใช่ นักการตลาด ที่เอาแต่ขาย Concept
แล้วจากนั้น ก็โยน ภาระ อันหนักอึ้ง ที่ไร้วี่แวว คำตอบ อันสำคัญให้แก่ลูกค้า
ผมเจอกับความล้มเหลวของลูกค้ามาเป็น ร้อยๆราย แต่ละวัน ในช่วงที่ผม ฝืนตนเอง ทำงานกับ Digital Agency รายหนึ่ง
ทำให้ผมรู้ดีว่า เขาไม่บอกเหตุผล และปัญหา หรือความจริงให้ลูกค้าได้รับทราบ
เขาพูดเอา Concept ที่เป็นประโยชน์กับตนเองมากกว่า ที่จะจับเข้าไปสู่ Core ของปัญหาของลูกค้านั้นจริงๆ
พวกเขา กลบเกลื่อน ด้วย ศัพท์เทคนิคต่างๆ ด้วยเหตุผล นานาประการ และหลอกล่อด้วยลูกเล่นประหลาดๆ ให้พวกคุณได้อยากรู้อยากลอง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว อยู่ที่ กำลังการผลิต การรู้ core success และการพัฒนา SITE Authority หรือ เครือข่าย Network ที่แข็งแรงพอ
ผม Optimize ทุกอย่าง เพราะรู้ว่า เงินของลูกค้า มันคือ ROI ที่เอาไปใช้ทำอะไรได้หลากหลาย ในเรื่องของการผลิต และ พัฒนา ศักยภาพภายใน
ดังนั้น ลูกค้าเอง ต้อง หมั่นเรียนรู้ เรียนรู้แผนการตลาดออนไลน์ ร่วมกัน
และลองกระทำ แล้วอย่าลืม การสร้าง Community และการสร้าง Connections ร่วมกันที่ก่อผลประโยชน์ในอนาคต อย่างยั่งยืน