>

ปัญหา Google Analytics track Display AdWords ไม่ได้

It just means Google is unable to calculate the amount of time spent on a page when the page view is a bounce.
หมายความว่า Google Analytics ไม่สามารถคำนวณ จำนวนเวลาที่ใช้ใน เว็บเพจ หรือ เพจวิวต่างๆ ได้ จึงเกิด Bounce. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่เป็นจริง.

ไอเดียการแก้ไข ปัญหาในแบบที่ 1 = “set up trackPageview(‘exit’) in the page unload event.”

ทำความเข้าใจของปัญหา เมื่อพบว่า Google Analytics ไม่จับ session duration นั่นหมายถึง “Bounce, or Single Page View Visit” ก็คือการเข้ามาเพียงหน้าเดียว เราจะพบ Pages/session = 1 ในขณะที่ time เป็น 0

ประเด็นต่อมา “To calculate how long a user is on a page, Google needs two data points.”
การที่ Google Analytics จะคำนวณ ระยะเวลา ที่ผู้ใช้งาน นานเท่าไหร่ อยู่บน webpage , Google ต้องการ Data point 2 จุด

พอมาอ่านหน้า Policy ของ Analytics
เจอเรื่องน่าตกใจมากๆ เขาว่า ” if traffic to a specific landing page has been filtered out of a view, you still see the AdWords information for those destination URLs, but you don’t see basic metrics like Sessions and Bounce Rate.”

“หาก traffic ถูกส่งไปที่หน้า Specific Landing Page และโดน Filter ออกจากระบบ view ของ Analytic tool เรายังคงเห็น ข้อมูลรายงาน AdWords ใน destination URL นั้น แต่เราจะไม่พบ Basic Metrics เช่น Session และ Bounce rate” เฮ้ย !!! แบบนี้ ก็มีด้วย !!!

กลับมาที่ ไอเดีย การแก้ไขปัญหา 1 –
ผมได้ เข้าไปศึกษาเพิ่มเติม จึงได้เบาะแสว่า
“A common workaround is to set a javascript timeout and trigger an event after ten seconds or so (with the “interaction” flag in the event set to true, see Google Analytics event tracking docs for details). ”

ต้องเข้าไปลองอ่านในเองสาร การใช้งานของ Google Analytics.

เนื้อหาเพิ่มเติมที่ควรเรียนรู้
“Manual tagging”
“Auto-tagging”
“URL builders” >> https://support.google.com/analytics/answer/1033867
“Non-Interaction Events in Google Analytics” >> http://www.lunametrics.com/blog/2014/05/06/noninteraction-events-google-analytics/ [แนะนำให้อ่าน]

LINK ข้อมูลเพิ่มเติม
[มี Tag Manager ให้ดูด้วย]http://www.lunametrics.com/blog/2014/05/06/noninteraction-events-google-analytics/
http://www.talkqueen.com/Google-Analytics-000000-Avg-Time-on-Site-mystry-solved-q117008
https://support.google.com/analytics/answer/1034316?hl=en

Why Google Analytics needs to fix its Sessions

เฉลยแนวข้อสอบ Google AdWords Fundamentals – What’s one benefit of creating multiple ad groups?

เฉลยแนวข้อสอบ Google AdWords Fundamentals –
90. What’s one benefit of creating multiple ad groups?

a) You can target specific ad groups into various Google networks
b) You can break up keywords and ads into related themes
c) You can pause specific Keywords if they’re not performing well
d) You can set different budgets for each ad group

เฉลยแนวข้อสอบ Google AdWords Fundamentals – Google Analytics can help you learn more about the behavior of your client’s customers because it shows you how:

เฉลยแนวข้อสอบ Google AdWords Fundamentals –
86. Google Analytics can help you learn more about the behavior of your client’s customers because it shows you how:

a) they perceive her products
b) they interact with her website
c) likely they are to become a regular customer
d) likely they are to click her ads

เฉลยแนวข้อสอบ Google AdWords Fundamentals – Clyde Wants to Raise the Profile of his dance school. A “Display Network only” Campaign can Help him:

เฉลย ข้อสอบ Google AdWords 002

โจทย์ : Clyde Wants to Raise the Profile of his dance school. A “Display Network only” Campaign can Help him:

  • (A) Show ads on Dance Website and Youtube videos.
  • (B) Show Ads when someone searches for dance classes
  • (C) Pick the Most Popular keywords for his campaign
  • (D) Match his Ad Text to what people are searching

 

เฉลยแนวข้อสอบ Google AdWords Fundamentals – You Would Advise a Client that’s launching a New Product line to Advertise on the Google Display Network because she can

คำถาม

You Would Advise a Client that’s launching a New Product line to Advertise on the Google Display Network because she can:

  • (A) Use Text Ads that encourage people to call her business
  • (B) Use text Ads that encourage people to visit her website
  • (C) Reach people who are searching for her profits
  • (D) reach people who are interested in similar products

คำอธิบาย โจทย์ :
หากเราต้องการ โฆษณา สินค้า ตัวใหม่ ทาง “Google Display Network” เพราะว่าอะไร ?

คำตอบที่น่าจะถูกต้องที่สุด = reach people who are interested in similar products
เพราะว่า ในชุดการสอน ทาง Google อธิบายให้เราเข้าใจว่า โฆษณา ทาง “GDN” จะแสดงผล โฆษณาของเรา ไปตามแหล่ง เว็บเพจต่างๆ คำว่า “Reach” คือการเข้าถึงสายตาของลูกค้า และเป็นงานทางด้านการตลาด
การ Reach ก็ไม่ได้เกี่ยวกับว่า พอ Reach แล้ว เราจะได้ยอดขายเลยทันที แต่สำหรับสินค้าบางอย่างนั้น จดจำได้ง่าย
เป็นกรณีพิเศษไป ถ้าสินค้านั้นกระตุ้น Demand คนที่รับ Ads โฆษณาทาง GDN.

ส่วนใหญ่ เรานำเสนอ โฆษณา GDN เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจในเนื้อหาโฆษณาของเรา
โดยกำลังอ่าน บทความเรื่องหนึ่งอยู่ อย่างเช่น การแต่งเพลง แล้วมาเจอ Ads โฆษณา เจ๋งๆ Story ดีๆ เกี่ยวกับ
สินค้าของเรา เช่น กีตาร์ – อันนี้ก็อาจเป้นตัวดึงดูดได้ เพราะคาดว่า คนที่กำลังอ่าน เนื้อหานั้น สนใจเรื่อง การแต่งเพลง และเขาเองอาจเป็นนักดนตรี ที่ชอบเล่นกีตาร์ หรืออาจจะมีเพื่อนในแวดวงก็เกิดการบอกต่อได้

ทัศนะของ “Search Monopoly”
GDN เป็นเรื่อง ยากและ Low Effective สำหรับ ธุรกิจ B2B อย่างเช่นการตอกเสาเข็ม หรือพวก แก้ปัญหาเชิง Function นะครับ ส่วนตัวผมเอง ประสบการณ์ จะถนัดการทำ โฆษณาแบบ B2B เน้นการแก้ปัญหาทางธุรกิจ
จึงมีความเข้าใจข้อแตกต่างตรงนี้ดีครับ

สำหรับการทำ GDN ผมแนะนำเพิ่มเติม อย่ามัวแต่สร้าง brand reach หรือพวก Pageviews เป็น เป้าสัมฤทธิ์ อย่างเดียวครับ
งานต่อไปที่พึงกระทำ สำหรับการทำ GDN คือเรื่องพัฒนา Interaction ของ Users ที่เข้าชมเว็บทาง GDN ให้ได้มากที่สุด และ ศึกษา พฤติกรรมของ User ที่เข้ามาในเว็บเราครับ

สังเกตุว่าข้อสอบข้อนี้ จะกล่าวถึงเรื่อง “Interest” เป็นหลัก เราต้องเอา key point ตรงนี้มาพัฒนาการตลาดต่อครับ ไม่ใช่ หยุดแค่จ้างใครก้ได้มาทำ GDN โดยเฉพาะ พวก AdWords Agency ที่รับทำ โฆษณา Google AdWords คุณผู้ประกอบการเอง ควรหมั่นศึกษาแผนพัฒนาทางการตลาดของตนเองให้ดีๆก่อนด้วยครับ จึงจะได้อะไรกลับมา หลังจากเสียเงินค่า โฆษณา GDN ไป

ผมบอกความลับให้นะ พวก เอเย่นทำ GDN แม้ทำให้ของตนเอง ก็ทำพังมาเยอะครับ เสียเลือดเยอะ
ผู้บริหาร หัวเสียบ่อยๆ เพราะเด็กๆ ที่ทำแคมเปญ ไม่คำนึงถึง “NEXT STEP” ไม่มีการวางหมากต่อไปอย่างชัดเจน
และไม่มีการ keep capture หรือจัดเก็บความรู้จาก Out comes ที่เราได้วัดผลจากแคมเปญต่างๆ

ทาง Search Monopoly จึงขอย้ำอีกทีครับว่า คุณต้อง หาคนฝีมือถึงมารับงาน GDN อย่าไปจ้างใครมั่วๆ มาทำเด็ดขาดครับ ทำไปไม่คุ้มเสียครับผม

 

กลับไปหน้าบทเรียน Fundamental และ รวมเฉลยข้อสอบ Google AdWords

เปรียบเทียบ โฆษณา PPC AdWords – SEO Organic – E-mail Marketing

ใช้ผิดวิธี – แพ้ทุกสนามรบ ยุทธศาสตร์การวางแผนทางการตลาดออนไลน์ เข้าใจ เครื่องมือและวิธีการที่แตกต่างกัน อย่ายึดติด แค่แนวคิด แต่ให้นึกสภาพรวม

เปรียบเทียบ ชั้นเชิงทางเทคนิค 3 Channels เราจะเข้าใจมิติของโลกออนไลน์ ในหลายๆมิติ ที่แตกต่างกันออกไป
การทำการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ ควรใช้เครื่องมือให้ถูกที่ถูกทาง ตรงกับกาละเทศะ และมีแผนระยะยาว
ก่อนอ่านบทความนี้ แนะนำให้ลอง กลับไปอ่านเนื้อหา "Web Traffic Checking" เพื่อเข้าใจหลักการ 3 ประสาน ในเรื่องของการพัฒนาช่องทางการตลาดออนไลน์ ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในเชิงคุณภาพ แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ในโอกาสต่อไป Search Monopoly จะพัฒนาเนื้อหาเชิงลึกในการทำความเข้าใจ User Behavior โดยใช้ Google Analytics เพื่อพัฒนาช่องทาง ทางการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ก่อนอื่น จงอย่า ยึดติดกับ ช่องทางการตลาด ช่องทางเดียว

และ ทำให้หวังผลทาง Organic Traffic แล้วเราจะเหนื่อยน้อยลง

e-mail-marketing-work-style
E-Mail marketing เปรียบเสมือนปืนกล ในสนามรบ

1.) E-Mail Marketing

เป็นอาวุธหนัก อย่างปืนกล ที่ใช้ยิงในระยะประชิด - ยิงเพื่อหวังผล และยิงตัดกำลัง การยิง E-mail ในโลกการตลาดออนไลน์ จะยิงกวาดเรียบ ในตำบลเป้าหมาย ฉนั้นแล้ว Target จะต้องมีความสนใจใน Offer ของเราในระดับหนึ่ง มิเช่นนั้น เราจะกลายเป็น Spam.

การทำ E-Mail Marketing จะเน้น 2 รูปแบบเป็นหลัก คือ a.)ก่อนจะรู้จักกัน หรือ b.)รู้จักกันพอสมควรแล้ว

แผนการตลาดทาง E-mail ทั้ง a และ b ก็แตกต่างกันแล้ว อย่างที่เราเห็นบ่อยๆ ตามเว็บ Booking หรือ Flight Ticket มืออาชีพ
ที่ทาง Search Monopoly เองเห็นว่า นักวางแผนกลยุทธ์ ของทาง Air - Asia นั้นฉลาดมาก และวิธีการสุดแยบยล ที่เป็นการตลาดแบบอ้อมๆ ที่ไม่ได้เน้น Hard Sale จนเกินไป ทำให้เราวางใจใน Offer ของพวกเขาเป็นอย่างมาก และพร้อมที่จะ ใช้งาน Air - Asia ต่อๆไปในโอกาสข้างหน้าอย่างไม่รู้ลืม

นั่นคือแผนชนะใจ โดยใช้ชุดปืนกล ในแบบที่ Offer หรือการขายสินค้าแบบ PPC หรือ AdWords นั้นทำไม่ได้ดีเท่า การดึง Traffic จาก E-mail Marketing ต้อง Prove ให้ได้ว่ากลุ่ม ที่เราส่งไปมีความเป็น Loyalty พอสมควร

คำถามจากผู้ประกอบการ SME คือ -- ทำอย่างไรหล่ะ ที่จะทำให้ User ในเว็บเรา มีความเป็น Loyalty ขึ้นมา ?

คำถามนี้จะมีคำตอบ ในตลาสเรียน Google AdWords ฟรี ใน Lecture ต่อๆไป โปรดติดตาม และหากอยากเรียนรู้ การวางกลยุทธ์ให้แผนธุรกิจออนไลน์ เราเติบโตอย่างยั่งยืน แนะนำให้เข้ามาเรียนรู้ร่วมกันที่
"Free GoogleAdword Course เรียน แอดเวิร์ดฟรี"

AdWords PPC ใช้เชิง ซุ่มยิง
AdWords PPC ใช้เชิง ซุ่มยิง อย่าง Sniper

2.) PPC หรือ โฆษณา Google AdWords

 

การทำโฆษณา PPC เป็นแบบ Pay Per Clicks ฉนั้น ยิงเพื่อหวังผลอย่างเดียว -- เคยได้ยินไหม กระสุน Sniper 1 นัด เท่ากับ 1 ชีวิต การโฆษณา แบบ Pay Per Click ต้องอาศัยความแม่นยำเป็นพิเศษ

 

อย่าเอาการทำ โฆษณาแบบ PPC มาปั่นยอด Clicks สูงๆ หรือเน้นการทำ Traffic จำนวนมาก จาก PPC หากไม่พัฒนาช่องทางการเติบโตทางช่องทางอื่น ธุรกิจของคุณจะโดนตีกระหนาบ และ ตายในสนามรบทางธุรกิจ เนื่องจาก กระสุน PPC นั้นมีต้นทุนที่สูงมาก และมีการประมูลของ Keyword ที่มีมูลค่า การ Offer ของเราต้องคมจริงๆ และ Ads Text จะต้องบ่งบอกคุณลักษณะสินค้าและบริการที่ชัดเจน อีกทั้งต้องรู้ใจ อย่างชัดๆ ว่าคลิ๊กแล้ว ต้องมาพิจารณาเพื่อ ซื้อ หรือ ติดต่อเข้ามาแน่ๆ ฉนั้น การทำ PPC ต้องตั้งอยู่บนพื้นที่ Webpage ที่ทำเลดีจริงๆ (Best Landing Page - Best Offer) ไม่ใช่การมาเพื่อทำ Selections หรือมาดูๆ แล้วก็ไป แล้วก็ลืม พยายามจับ จังหวะ โอกาส หรือแนวทางที่จะ Offer ให้เขาเข้ามาซื้ออย่างจริงจัง 

 

 

SEO work style
การทำ SEO เสมือนการใช้ ปืนใหญ่ ยิงทั้งตำบล หวังผลทำลายล้างสูง

3.) การทำ SEO คือการยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่

รูปแบบการพัฒนาช่องทางการทำการตลาด เพื่อเพิ่มปริมาณ Organic Traffic จะใช้ระยะเวลาที่นาน และยิงทีละนัด แต่หนักแน่น หวังผลแบบทั้งตำบล ชนิดที่เรียกว่า ค้นหาเราก็เจอเราในทุกมิติ การทำ SEO ใช้ระยะเวลานานมาก เสมือนดั่งเช่นการ Re-Load กระสุนปืนใหญ่ ที่ใช้เวลานานกว่า การยิงด้วย Ads หรือ E-mail ที่เปรียบเสมือน ปืนกล และ Sniper 

การทำ SEO คือที่สุดของการตลาดออนไลน์ เพราะจะเพิ่มมูลค่าเว็บสูงมากๆ การพัฒนาเนื้อหาให้ติดอันดับในทุกมิติของสินค้าและธุรกิจของเรา บวกกับการขยายขอบเขตุการค้นหาอย่างไม่สิ้นสุด ต้องอาศัยการวางแผนที่ดี การคิดทบทวนที่ดี และการเขียนบทความทางเทคนิคอย่างมืออาชีพ เพื่อ Keep Usability และ User Retention อย่างต่อเนื่อง

 

การที่ User เข้ามาใช้ช่องทางการค้นหาทาง Organic ของเราอย่างซ้ำๆ จะเป็นการปั้น brand ให้คนรู้จักในระยะยาว ลองสังเกตเว็บใหญ่ๆ Brand ใหญ่ๆ เราจะเห็นพวกเขาเสมอเมื่อค้นหาใน Google และ พบเห็นบทความที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ที่เราค้นหาอยู่ประจำ

usability

มาเข้าเนื้อหาทางวิชาการกัน

เราจะเห็นได้ชัดว่า จากค่าสถิติในตาราง ช่วงนี้ เน้นการโพสฟรี ใน Facebook Group จึงได้ผู้ใช้งานที่ติดตามอ่านเข้ามาจำนวนมาก แต่จริงๆแล้ว เราควรเน้นช่องทางอื่นให้มากกว่า โดยเฉพาะ Referral Traffic ที่จะเป็น เมล็ดพันธุ์เพาะบ่มให้ เกิดการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ

จากการทดลอง และ ค้นคว้ามากจากหลายๆตัวอย่าง การดึง Traffic จาก Social Channel นั้น บอกตามตรงว่าเหนื่อยกว่า ช่องทางอื่นมากๆ และโอกาสปิดการขายที่น้อยกว่า โดยเฉพาะในงานทางด้าน บริการ ที่ยากยิ่งจะเข้าใจ และ ไม่ Match กับกลุ่มประชากร ตามหลักการของ Social Marketing

ผู้ที่มาใช้งาน ส่วนใหญ่ที่เข้ามาในเว็บนั้น มักจะมีประสบการณ์ในการทำ Online Marketing มาเป็นอย่างดีแล้ว หรือมี Experience แล้วทั้งนั้น ซึ่ง Traffic ที่ได้มาในช่องทางดังกล่าว อาจจจะยังไม่ตรงกลุ่มนัก

แต่แผนระยะยาว ที่ได้พัฒนาอยู่นั้น คุณจะเห็นได้ว่า มีช่องทางทาง Direct และ Referral เป็นเรื่องของ สามประสาน ที่จะทำให้เกิด Organic เป็นแรงกระเพื่อมจากการเติบโตที่จะตามมาในอนาคต นี่คือการหว่านและเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ที่สำคัญยิ่ง

 

เนื่องจาก ยอดโทรเข้ามาสอบถามจำนวนมากนั้น ส่วนใหญ่ล้วนมาจากการค้นทางทาง Organic

ส่วน PPC นั้น เหมือนว่า จะอยู่ในตำแหน่งที่ 1 บน Google แต่ให้นึกถึงตัวท่านเอง และหลายๆคน ในโลกความเป็นจริงแล้ว มักจะมองข้าม Ads PPC ไปก่อน และเลือกการ Click ที่ Organic เพื่อเรียนรู้เนื้อหา และ บทความที่น่าสนใจก่อนจะกลับมา โดยบังเอิญ หรือไม่พบสิ่งที่น่าสนใจพอก็จะมาเลือกคลิ๊ก Ads.

โดยส่วนใหญ่แล้ว พวก Internet User ที่มีประสบการณ์ในเรื่อง IT อย่างดี มักจะแยกออกว่าอะไรคือ Ads อะไรคือ Organic Result.  

การดูพฤติกรรม ผู้เข้าชมเว็บ ผ่านทาง Google Analytics – User Explorer

พัฒนาคุณภาพ และ ประสิทธิภาพการโฆษณา Google Adword ผ่านทางการวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งานของผู้ชมโดยเครื่องมือ Google Analytics - User Explorer

การวิเคราะห์ เพื่อพัฒนา Performance ทางการตลาดออนไลน์ ต้องเข้าใจการค้นหาของผู้เข้าชม เราจำเป็นต้องเรียนรู้ว่า Targeting Visitor มีพฤติกรรมการเข้าชมเว็บไซต์ของเราอย่างไร ก่อนที่จะเข้ามาปิดการขาย หรือโทรเข้ามาสอบถาม 

เนื้อหาจากการเรียน Google Adwords Free - Lecture 001 - The War Room

 

บทความนี้ ได้เขียนขึ้นเพื่อช่วยเหลือ ผู้ที่เข้ามาศึกษา การทำ Google Adword Free จาก Class Lecture 001 - The War Room

ผู้ที่กำลังเรียนรู้ การพัฒนาเว็บไซต์ของตนเอง และ อยากเรียนรู้ การทำการตลาดออนไลน์ โดยพัฒนาในเชิงประสิทธิภาพ และทำได้ด้วยตนเองเป็น เราได้นำ วิธีการเรียนรู้ และกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด และนำ Technique บางอย่างที่สำคัญๆ ที่ได้พูดกล่าว คัดมาลงใน Webpage ของ Search Monopoly อยากให้ผู้ที่เข้ามาเรียนรู้ สามารถติดตาม เนื้อหา วิชา ที่ผมนำมาถ่ายทอด ได้ด้วยตนเอง เมื่ออยู่ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเข้ามาหาแบบเจอหน้ากัน เพื่อการประหยัดรายจ่าย และประหยัดน้ำมัน ตลอดจนเวลาการเดินทาง

 

 

อยากแนะนำ ผู้ที่ยังไม่ได้เคยเข้ามาเรียนรู้ ให้ลอง ติดตาม คอร์ส เรียน GOOGLE ADWORD ต่างๆ จาก SEARCH MONOPOLY

caution-iconหากอ่านบทความนี้จนจบ คุณจะประหยัดค่าเดินทางไป อย่างน้อย 250 บาทโดยทันที !!

และคุณจะประหยัด ค่า เซหมิหน่า ขายคอร์สอบรมแพงๆ ไปแล้ว อย่างน้อย 5,000 บาท !!

รวมแล้ว Value นี้ 5,250 บาท ได้แบบฟรีๆ 

การเข้าดู User Activity ใน User Explorer

สำหรับท่านที่ยังใช้ Google Analytics ไม่ค่อยจะเป็น หรือไม่มีประสบการณ์ ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
โดยทาง Search Monopoly จะเร่งดำเนินการพัฒนา การใช้งาน Google Analytics เบื้องต้นให้กับทางผู้ที่เข้ามาเรียนรู้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพทางการตลาดออนไลน์ของเรา
เนื่องจาก ผู้ค้าขาย หรือทำธุรกิจทางด้านออนไลน์ หรือ Internet Marketing ส่วนมาก โดยเฉพาะ กลุ่มผู้ประกอบการ SME จะไม่ค่อยให้ความใส่ใจ ในเรื่องของคุณภาพ ผู้ใช้งานเว็บของตนเอง ว่าพวกเขาเหล่านั้น เข้ามาใช้งานจริงๆแล้ว พวกเขาเข้ามาดูอะไรบ้าง ??

เราจะไม่รู้เลยว่า เราจะพัฒนาเนื้อหา อะไรต่อไป
เราจะไม่รู้เลยว่า เราจะต้องจัดวาง หน้า Webpage ของเราอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น
เราจะไม่ทราบเลยว่า ผู้เข้าชมของเราเป็นใคร มีลักษระแบบไหน
เราจะไม่ทราบได้เลยว่า Traffic Flow ใน Website ของเราเข้ามาโดยมี PATH อย่างไร

ซึ่งตรงนี้สำคัญมากๆ ถ้าเรามัวแต่ไปบริหารการเติบโตเพียงอย่างเดียว หวังเอาน้ำในบ่อหน้า เพียงแต่คิดว่า ทำอย่างไรเพื่อให้ติดอันดับแรกๆ ในหน้า Google แล้วจะได้ยอดขายมากๆ ซึ่งแนวความคิดแบบนี้จะเป็นแนวคิดที่ผิด การเติบโตควรพัฒนาในเชิงคุณภาพ อย่างเช่น SEARCH MONOPOLY ได้ทดสอบ (Test & Experiment) เพื่อพัฒนา Micro-Units ในการทำ Adword ADS (PPC) โดยมีคนเข้ามาเพียง 12 Clicks ภายใน 5 วัน และเราได้ คนโทรเข้ามาสอบถามและอยาก หรือสนใจจะจัดจ้างเราอย่างจริงจัง นี่คือสิ่งสำคัญมากๆ ในการพัฒนาทางการตลาดออนไลน์

หลักแนวคิดของ SEARCH MONOPOLY คือเน้นการทำเว็บไซต์ เพื่อเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานจริงๆ และ ความน่าเชื่อถือ (Trust) จะเข้ามา และ สร้างจากการให้ความรู้ และทำให้ลูกค้าเข้าใน Scope ในเนื้องานของเรา ซึ่งส่งผลให้ เกิด High Effective

เมื่อเราเกิด Pattern ที่ดี แล้วนำไปสร้างการเติบโตตาม Scale ให้ใหญ่ขึ้น ตัว TEST Units ที่ดี ที่เรามีทั้งหมด นำมาสร้าง โอกาสทางธุรกิจ และประหยัดงบประมาณรายจ่ายได้อย่างดีเยี่ยม
โปรด ค่อยๆเรียนรู้ การทำการตลาดออนไลน์ ไปกับ SEARCH MONOPOLY บทความนี้เราจะเน้น อ้างอิงจาก ผลลัพธ์ ในบทเรียนของ Google Adword ในห้องเรียนแรกสุด "The War Room"

google analytics paid search ppc adword visitor activity 001
สิ่งแรกที่คุณควรเข้าไปดู หลังจากลองทำ TEST UNIT แล้ว หรือ RUN PPC Ads ไปได้ 5 - 14 วัน ให้ลองมาดูที่ User Explorer ก่อนเลย เพื่อเข้าใจ Flow ของคนที่เข้ามาติดต่อสอบถาม และเปรียบเทียบกับลักษณะ ของ ผู้เข้าชมที่ไม่ได้เข้ามาติดต่อสอบถาม เมื่อเราทำการวิเคราะห์ และ ทำการวิจัยในระบบ เราจะได้ Operation Input กลับเข้าไปในระบบอีกชุดหนึ่ง และเราจะได้ Hypothesis (สมมติฐาน) อีกชุดหนึ่ง ซึ่งนำไปเขียนเป็น Plan และ บทวิเคราะห์ส่วนตัว สำหรับพัฒนาคุณภาพทางการตลาดออนไลน์ ได้ดียิ่งขึ้น และเมื่อทำซ้ำๆ เราจะเห็นการเติบโต อย่างสมเหตุสมผลที่ดีมากๆ และลูกค้าที่เราได้จะเป็นลูกค้าของเราจริงๆ นั่นหมายถึง ลูกค้าที่มีคุณภาพ -- ลูกค้าที่มีความพร้อม -- ลูกค้าที่เข้าใจในบริการของเรา ซึ่งถ้าเราได้ลูกค้าแบบนี้ เราจะได้ลูกค้าที่มี Value ทางธุรกิจ เราจะพัฒนางานของเราได้ดี และเขาจะเข้าใจกระบวนการทำงานของเรา อีกทั้ง ธุรกิจของเขาจะเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถทำให้เป็นลูกค้าชั้นดี เป็นลูกค้าระยะยาวได้อีกด้วย

สิ่งที่ต้องกดดูในหน้า Dashboard (Google Analytics Interface)

  • 1) กดที่ Category หลักในส่วนของ Audience
  • 2) คลิกที่ User Explorer
  • 3) ให้เลือกที่ Paid Traffic

อย่าลืมกำหนดระยะเวลา time line ที่มุมขวาบน โดยบทเรียน Lecture 001 นี้ จะให้ผู้เรียนเริ่มจาก 5 - 7 วันก่อน
แต่ถ้าหากได้ Ads แคมเปญ ที่แข็งแรง และมี Pattern ในการปิดการขายแล้ว เราจะ Research แบบราย 14 วัน

User interaction ในเว็บ จาก paid search channels ใน user explorer dashboard
figure: ภาพ user interface สำหรับ user explorer ที่ใช้ดู การใช้งานระดับเชิงลึก

ตัว Ads หรือ text script ใน Google PPC Ads จะส่งผลให้ลูกค้า พิจารณา และทำความเข้าใจเบื้องต้น
ปัญหาระดับชาติ ของคนไทย มักจะมีคนที่ใช้งาน Internet ไม่แข็งแรง หรือ พวกผู้ใช้งาน ที่มักรีบเร่ง มักมีพฤติกรรม คลิ๊ก โฆษณา Ads พร้อมทั้ง คลิ๊กทุกๆอย่าง ที่อยู่บนหน้าแรกๆ ใน Google ซึ่งสิ่งนี้ เรามีแผน ในการแก้ไขในบทต่อไป

อีกส่วนประกอบที่สำคัญอย่างยิ่ง คือหน้า Landing Page ที่เป็นตัวสำคัญ ในการคัดกรองคนที่จะเข้ามาสอบถาม บริการ หรือสินค้าของเรา ไม่เพียงแค่ จะนึกถึง "Call to Action" เพียงอย่างเดียว แต่หน้า Landing Page นั้น จุด โฟกัสหลักๆ ทุกจุดที่คุณจะทำให้เขาเข้าใจว่าเราเป็นอะไร ทำอะไร ให้ Value ที่เขาจะได้รับนั้นคืออะไร ?
ฉนั้นแล้ว ทุกๆ ตัวอักษร ในหน้า Landing Page เป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะทำให้คนโทรเข้ามาสอบถาม

เรื่องต่อมา คือการเข้าไปดู และ วิเคราะห์ ในเรื่องของเวลา (Time)
ก่อนจะกล่าวถึง Time ขอให้ผู้เรียน Adword ตระหนักอย่างยิ่ง หลักๆ สำคัญ คือ

TIME & Keywords

เราจำเป็นต้องรู้ว่าเขา ใช้คำค้นหา คำว่าอะไร
และเราจำเป็นต้องรู้ว่า เวลาที่เขาเข้ามานั้นเป็นเวลาเท่าไหร่

อันนี้ให้ดูที่ Dimension และลองคลิกเข้าไปดูในส่วนของเวลา

เลือก User Session ที่โทรสอบถามเข้ามา

  • 1) ดู Session เป้าหมาย ที่มีการโทรเข้ามา
  • 2) ศึกษา ระยะเวลาที่เขามาเรียนรู้ในเว็บของเรา
  • 3) จดบันทึกวันที่ หรือเช็คดู ว่าเป็นวันที่ ที่เรา RUN โฆษณา Google AdWords

กลับเข้าไปศึกษาใน Google AdWords Dashboard แล้วเข้าไปดู แคมเปญที่เรา RUN Ads ทิ้งไว้ พร้อมทั้งระบุวันที่ ที่เราได้รับการโทรเข้ามา เพื่อคัดตัว Keyword ที่เข้ามาว่าเป็น Keyword ชนิดใด

google-analytics-paid-search-ppc-adword-visitor-activity-003

2 session by google adword ppc
คนที่เข้ามาดู และกำลังตัดสินใจ ที่จะใช้บริการจริงๆ เขาจะเข้ามาดูอย่างละเอียด

ตรงนี้สำคัญมากๆ --- เราจะสามารถสกัด Point เหตุผลของการซื้อ --- เหตุผลของการขาย ในเรื่องของ การตลาดออนไลน์ โดยใช้ PPC ได้ดีมากยิ่งขึ้น

เราจำเป็นต้องเขามาดู Session ที่มีการโทรสอบถามเท่านั้น
ส่วน Session ที่ไม่ได้โทรมาสอบถาม ก็ไม่ควรทิ้งไป หากมีโอกาส ก็ต้องมาวิเคราะห์ พฤติกรรมของผู้ใช้งานเช่นกัน

สรุป User ที่เข้ามาสอบถาม ไม่ได้ดูแค่หน้า Landing Page อย่างเดียว
และเขาก็ไม่ได้ เข้ามาดูแค่หน้า Selling Page เพียงอย่างเดียว
User ผู้นี้ เข้ามาดู Process อย่างละเอียด

เช่น รูปแบบการทำงานของเรา
ประวัติของเรา
รวมถึงไปดู เนื้อหาอื่นๆ เช่นใน Case นี้เข้ามาดูไปถึงเรื่องของ Google Adword Advertising อีกด้วย

และใช้เวลาเข้ามาดู เกือบๆ 1 ชั่วโมง และเปิดเข้ามาดู 2 Session หมายถึง 2 ช่วงเวลา
เปิดไป 22 Pageviews ดูเนื้อหาเว็บของเราอย่างละเอียด และครุ่นคิด นี่คือพฤติกรรมของผู้ใช้งานจริงๆ
เนื่องจาก Search Monopoly เป็นงานทางด้านบริการ ฉนั้น เรื่องของ Trust จึงเป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการทำ Content
Search Monopoly ไม่ได้มีเว็บที่ออกแบบ (Design) ที่ตรงตามหลักการของ UX เท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ทิ้งกระบวนการ หรือ องค์ความรู้เรื่องของการทำ UX เข้ามาประยุกต์ในหน้า Landing Page และ เว็บเพจต่างๆ ประกอบกัน จึงกลายเป็นส่วนสำคัญของ User Flow ที่เข้ามาติดต่อสอบถาม

โปรด ละทิ้งความเชื่อ เดิมๆ เรื่องการปิดการขายภายใน 7 วินาที หรือ การทำ Selling Page เพียงหน้าเดียว
เพราะการกระทำแบบความเชื่อผิดๆ จะทำให้เราตัวเล็กลง และวิ่งตามคู่แข่งไม่ทัน
มักจะมี Agency ที่ให้ความรู้แบบ ชุ่ยๆ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการ SME อ่อนแอ

และให้คำนึงถึงเว็บไซต์ ของธุรกิจดังๆ เขาให้ความสำคัญมากในงานพัฒนาเนื้อหา และการวิเคราะห์ของการใช้งาน และพัฒนา User Experience อยู่เสมอๆ
จงระวังอยู่ตลอดว่า คู่แข่ง จะเดินข้ามหัวเรา เมื่อเราหยุดนิ่งๆ และคิดว่าเราทำอันดับได้ดีแล้ว
แล้ววันหนึ่ง อันดับใน Google ของคุณจะค่อยๆหายไปจากระบบโลกออนไลน์ ถ้าเราไม่รู้จักเรื่อง การพัฒนา และ ใส่ใจในรายละเอียด

กลับมาดู Specific ใน Adword แคมเปญ

มาถึงจุดนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรต่อ ??

adword-keyword

A) กลับไปดูในหน้า SEO Process

B) เข้าไปดู แคมเปญ Adword

C) คัดกรอง และจัดทำแผนเชิง กลยุทธ์

D) กลับมาที่แผน Business Development ใน Section Online Marketing

E) เพิ่ม Hypothesis ตั้งสมมุติฐาน และ พัฒนา Problem Statement

F) จัดทำ Product mix + Marketing Mix และ พัฒนาเนื้อหา สินค้าและ บริการ

G) สร้างข้อมูลเชิง FACT

H) กลับไปแก้เงื่อนไขการให้บริการ

I) Research & Optimization Step.

J) สร้าง Input กลับเข้าไปในระบบ

K) มาเรียนรู้ และ สอบถาม เพื่อการดำเนินงานกับ SEARCH MONOPOLY โปรดติดต่อ ที่ Contact US

วิธีการแก้ปัญหา Adword – Ad policies : Parked domain

เว็บไซต์ ของเราเป็น Parked Domain โดนระงับโฆษณา Google Adword

บางครั้ง เราลืมไปว่า Domain เราหมดอายุ หรืออาจเป็นปัญหามาจาก Server ทำให้ Google ระงับโฆษณา ของเรา

การโฆษณา Google Adword จะต้องอยู่ภายใต้การบังคับใน Policy ของ Google INC. โดยตรง ตรงนี้เราสามารถเข้าไปตรวจเช็ค Policy ที่เรากระทำผิดต่างๆไว้ได้ โดยบทความนี้ จะมาแนะนำปัญหา ที่เกิดจาก การระงับ โฆษณา จากเรื่องของ Parked Domain

จากตัวนโยบายของโปรดัคของ Google Adword ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับประโยชน์ของการโฆษณา Adword – เชื่อมโยง ธุรกิจของเรา เข้าไปสู่กลุ่มลูกค้าของเราเมื่อถึงจุดหรือจังหวะที่เหมาะสม
ระบบของ Adwords ได้มีความซับซ้อนในการค้นหากลุ่มของเป้าหมาย โดยได้ช่วยเหลือเรา ด้วยวิธีการแสดง โฆษณาของเราไปสู่กลุ่มเป้าหมาย ที่ถูกต้อง ในช่วงสถานที่ ที่ถูกต้อง และช่วงเวลาที่ถูกต้องเช่นกัน โดยใช้ Keyword และ สถานที่ รวมไปถึง ข้อมูลเชิงสถิติประชากร และอีกมากมายในการทำเป้าหมาย แคมเปญโฆษณาของเรา

บางครั้ง เราได้กระทำผิด นโยบายของ Google โดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างเช่น Site ของเราอาจหมดอายุ หรือ Policy ของ Adword มีการแจ้งเตือนเข้ามา และระงับ โฆษณา หรือ แคมเปญของเรา อย่างเช่น “Parked Domain” ซึ่งเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นอย่างบังเอิญ และไม่อาจทราบสาเหตุอย่างแน่ชัดได้นั้น

[TABS_R id=1427]

การแก้ปัญหา

A) Editorial

เพื่อการแสดงคุณภาพให้แก่ประสบการ์การใช้งานของลูกค้า Google จำเป็นต้องได้รับความแน่ใจว่าทุกๆแคมเปญ ได้ตรงกับ เรื่องของเนื้อหาที่มีความเชี่ยวชาญสูง และมีมาตรฐาน พวกเราอนุญาตให้การโปรโมตแคมเปญนั้น โปร่งใส ชัดเจน โดยมองแล้วมีความชำนาญ และได้นำพาให้ผู้ใช้งานไปหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน และง่ายต่อการตอบสนองของผู้ใช้งาน (Interation)

ความผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นเสมอ กับ Text Ad ของเราดังนี้
1. Ad Text
2. Ad URL

อับดับแรก สิ่งที่ห้ามใช้ “Capitalization”
คืออย่าพยายามใช้ ภาษาอังกฤษตัวพิมพิ์ใหญ่ทั้งหมด
หรือการตกแต่งภาษา ด้วยตัวใหญ่ และตัวเล็กสลับกัน

เช่น “ADWORD SERVICE”
หรือ “AdWoRd SeRvIcE”

อันดับสอง อย่าใช้ พวกตัวอักษรพิเศษแปลกๆ
เช่นตัว Exclamation Mark
เช่น ราคาถูก !!!!
หรือใช้ Exclamation บนหัวเรื่อง
อย่าใช้ สัญลักษณ์ ซ้ำๆกัน เช่น ()()()
อย่าใช้ @ แทน at

เมื่อแก้ปัญหา และตรวจเช็คเรื่อง Editorial เสร็จแล้วให้มาดูขั้นตอนต่อไป

Parked Domain ISSUE

เช็คว่า Domain ของเราหมดอายุแล้วหรือยัง
ลองสอบถามผู้ให้บริการ HOST ว่า DNS ชี้ได้ถูกต้องไหม ?
พยายามสร้างเนื้อหาที่มีการตอบสนองกับ user ให้ดีกว่าเดิม
พยายามใส่ Internal Link ในหน้า Landing Page เพื่อให้เกิดการ Interaction ได้ดียิ่งขึ้น
สร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์กับผู้ใช้งานให้ดีกว่าเดิม
มีการเชื่อมโยงเนื้อหาอย่างเหมาะสม

 

แนะนำทุกท่าน ที่สนใจการทำโฆษณา Google Adword เข้ามาเรียนรู้ได้ที่นี่

ปัญหาการทำ Adword และ PPC ที่ SME ไม่ค่อยรู้

ปิศาจ มักก้าวเร็วกว่าเราไป 1 ก้าวเสมอ

คำนี้ เหมือนเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่ง

ลูกค้าที่สนใจการทำ Adword มักจะหลงเชื่อ คำหว่านล้อมของ SALE ที่อยู่เบื้องหลังโทรศัพท์

สิ่งที่ Search Monopoly แนะนำ อย่างเป็นห่วง และอยากให้คุณระวัง สิ่งดังต่อไปนี้ และให้คิดทบทวน เหตุการณ์ดังต่อไปนี้

เมื่อลูกค้า ทำ Adword ไม่เป็น และทำยาก – แนวคิดของ ผู้ให้บริการ ที่ขาดจรรยาบรร =

Adword สร้างง่ายมาก โฆษณาเร็วมาก บางที Page Layout ของหน้าเว็บที่ทำ Hard Sale จะมีลักษณะ แบบ Call To Action ซึ่งทำเน้นให้ลูกค้า เกิดความอยากรู้อยากเห็นใน บริการนั้นๆ

จิตวิทยาของการ SALE คือให้ลูกค้า กรอกแบบฟอร์ม ก่อน

 

ความเสียเปรียบ 5 อย่างในการโฆษณา PPC หรือ Adword

URL
https://www.techopedia.com/definition/26363/online-marketing
https://en.wikipedia.org/wiki/Online_advertising
http://neilpatel.com/what-is-online-marketing/
http://www.websearchworkshop.com.au/ppc-tips.php
https://searchenginewatch.com/sew/how-to/2343597/ppc-swot-analysis-manage-campaigns-like-a-business
http://www.theisland.agency/understanding-ppc-and-its-strengths-and-weaknesses/

Your PPC Strengths & Weaknesses

Strengths and Weaknesses of Pay-Per-Click Ads

5 Disadvantages Of PPC Advertising

ความเสียเปรียบ 5 อย่างในการโฆษณา PPC หรือ Adword
นำมาจาก LINKS http://onlineincometeacher.com/money/5-disadvantages-of-ppc-advertising/
1 PPC มันจะ ยุ่งยากและซับซ้อน
ปัญหาในประเทศไทย Agency รายใหญ่ๆ บางราย มักจะใช้คนที่ไม่มีความชำนาญที่แท้จริง
บางที่ จ้างพนักงานบางคนไปสอบใบ Google Adword Certificated แต่ปรากฏว่า เจ้าของใบ Certificated ได้ออกไปแล้ว เพราะเงินเดือนน้อย หรือ ได้ที่ดีๆกว่านี้ ทำให้มีแต่พนักงาน ที่ได้รับการ Train เพื่อทำการ SET UP แคมเปญแบบง่ายๆ และไม่ได้ทำอย่างละเอียด หรือมีการติดตาม วิจัย และไม่มีการคิด กระบวนการทำงานเพื่อตอบโจทย์ ทางธุรกิจของคุณ

2. โฆษณา PPC มันแพงมากจนเกินไป

คุณอาจกำลังโดน ผู้ให้บริการ Google Adwords บางรายไม่ดูแลเอาใจใส่ หรือทำให้ได้อย่างไม่ทั่วถึงนัก
ทำไม บางครั้ง ค่า Bid หรือค่า โฆษณา Google Adword ราคาแพงมากๆ
ให้ลองคิดดูว่า การทำ Google Adword เชิงกลยุทธ์ ต้องใช้คนที่มีค่าตัว 250,000 บาทอย่างน้อย
เพราะถ้าจ้างคนเก่งๆ มาทำให้ เขาย่อมขายของได้ ในราคา มากกว่า 200,000 บาทต่อเดือน
นั่นคือสิ่งที่ธุรกิจของคุณต้องการเป็นอย่างน้อย

แต่ในโลกความเป็นจริง เขาจ้าง ใครก็ไม่รู้ เงินเดือนราวๆ 7-8 พันบาท เด็กจบใหม่บ้าง จากคนไม่มีความชำนาญบ้าง แล้วก็มี Manager ที่พอจะคุมกระบวนการ SETUP ได้บ้าง แล้วดูแล ลูกค้า คนละ 40 – 200 ราย
จะเอาความทั่วถึง และ effective ได้ที่ไหน ??
SME จึงประสบปัญหาอย่างมาก ในการทำ Google Adword.

อีกประเด็น หาก เจ้าใหญ่ๆ มี ลูกค้า ที่มี Keyword เป้าหมายเดียวกัน
หมายถึง มีเสือหลายๆตัวอยู่ในถ้ำเดียวกัน ก็ต้องมา BID สู้กันเอง
BID จึงสูงเร็ว ต้องตีประมูลราคา ทับถมกันไปเรื่อยๆ ทำให้ ค่าโฆษณาราคาแพงเกินความเป็นจริงอย่างรวดเร็ว

ไม่มีความยืดหยุ่นในระบบ ความจริงแล้ว PPC หรือ Adword นั้น เจ้าของควรศึกษาการทำด้วยตนเอง จะดีที่สุด ไม่ควร จ้างคนอื่น
สิ่งที่ควรทำ คือไปเรียนจากคนเก่งจริงๆ แต่ในไทย ไม่มีใครสอน เพราะ ราคามูลค่ามันสูงมาก
หากประเมินจริงๆ ค่าเรียนแบบ Effective จะอยู่ที่ 250,000 – 450,000 บาท เป็นค่าความรู้ที่เอาไปใช้งานได้จริงๆ
และเรียนกันเป็นปี พูดง่ายๆ ปีนึงรับลูกค้าที่เป็นนักเรียน แค่ 4 – 5 รายเท่านั้น
ซึ่งอนาคต SEARCH MONOPOLY จะทำและลงมาเล่นตลาดนี้จริงจังด้วย

สำหรับตอนนี้ สามารถเข้ามาทดลองเรียนฟรีได้ก่อน ว่ามะนทำงานอย่างไรกันแน่ มีความลับอะไรซ่อนอยู่ ต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ จากการลงมือปฏิบัติ

ย้ำเตือนเสมอ !!! Technology ที่เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ต้องเรียนรู้ด้วยการลงมือเข้ามาปฏิบัติจริง ห้ามอ่านหนังสือโดยเด็ดขาด เพราะเราจะเก็บความเชื่อผิดๆไปโดนหลอกอีก ทำแล้วเห็นผลจริง แล้วจึงเชื่อ ลองซ้ำๆ 20 ครั้ง แล้วจะเข้าใจ

3. ผู้ใช้งานเว็บ มักมองข้าม Sponsored Ads
คนส่วนใหญ่เข้ารู้ว่าเป็น Ads มีจำนวนน้อยกว่ามาก ที่คลิ๊ก โฆษณา
การทำ Adword คืองานละเอียด ต้องดูลึกๆ ว่าหน้าตา Display ออกมาเป็นอย่างไร
และต้องไปเปรียบเทียบการค้นหาด้วย ว่ามันน่าคลิ๊กกว่า อันดับแรกใน Organic อย่างไร
แล้วเข้าไปดูด้วยว่าอันดับแรก หน้าตาเว็บ น่าเชื่อถือกว่าเราหรือไม่ ???

ลองดูตัวอย่าง

จุดจบ ของ SME ที่จ้าง เอเย่น ทำ โฆษณา Adword

ผมเขียนบทความนี้ เพื่อไว้ส่งจดหมาย ไปหาเจ้าของ และผู้ประกอบการ SME ที่กำลัง หรือ เพิ่งรู้ตัวว่า โดน เอเย่น (Agency) ของ Internet Marketing ค่ายต่างๆ หลอกไปทำโฆษณา GOOGLE ADWORD
เอเย่น (Agency) ของ Internet Marketing ค่ายต่างๆ ชอบอ้างตนเอง ว่าเป็น ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดออนไลน์บ้าง อะไรบ้าง ชอบอ้างตัวว่ามีลูกค้ากว่า 5000 ราย และอื่นๆอีกหลายอย่าง
พฤติกรรม ที่ทำให้ ธุรกิจ ของผู้ประกอบการ เจ๊ง หรือ พินาศ พังสูญสิ้น อันเนื่องมาจาก ความไม่รู้เท่าทัน ของ เอเย่น เหล่านั้น นั่นเอง


ผู้ประกอบการ [SME] หลายๆ ท่าน พอทำเว็บไปสักพัก ก็จะโดน Agency โทรฯ มาขาย PACKAGE ทำ โฆษณา Google Adword แล้วมาอวดอ้าง สรรพคุณ ว่าดีอย่างนู้น ดีอย่างนี้

เอา ตารางราคา เอา SALE มาหว่านล้อม เพื่องาน ปิดการขาย แล้วคุณต้อง กลายมาเป็น “เหยื่อ” ให้กับ Agency เหล่านั้น

สิ่งที่ SME ต้องระวังเป็นพิเศษ คือการเลือกใช้ บริการ โฆษณา Google Adword ที่เป็นมืออาชีพจริงๆ และ ต้องหา บริษัทเล็กๆ มารับทำ อย่าเข้าไปเดินใช้บริการ บริษัทใหญ่ เด็ดขาด !


ทำไม ไม่ควรใช้บริการ Google Adword จาก บ. ใหญ่ๆ ???

SME คง งง และ สงสัยในคำแนะนำจากผู้เขียนบทความนี้ หรือ อาจจะคิดว่า เราเขียนโดยมี อคติก็เป็นได้

แต่ขอ อธิบาย แบบ “เหตุ ไป ผล” แบบ โลกความเป็นจริงนะครับ

ลูกค้า 50 – 250 ราย ต่อ ผู้ดูแล เพียง 1 คน

พนักงาน บริษัท ที่ทำ Adword มีเพียง 20 – 40 คน

พนักงาน 30คน ใน 40 คน เป็นเด็กจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์สูง ในการทำการตลาด ออนไลน์มาก่อน

  • ไม่มี Sense ของ Business
  • ไม่มี ทักษะ การจัดการงาน ที่ดีมากพอ
  • ไม่มี ทักษะ ทางเทคนิคที่ลึก

ส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนที่มาทางสาย IT หรือ Business IT.

ทำงานแบบ ตามหน้าที่ ที่ระบบ วางไว้

 

คนพวกนี้ ผมเรียกพวกเขาว่า

“นัก SETUP”


โฆษณา Google Adword คุณภาพต่ำ ไม่เห็นผล

นัก SET UP จะไม่มีความรู้ ในการทำธุรกิจของลูกค้า ไม่เข้าใจในเนื้องาน และ ข้อมูลในการปิดการขาย

นัก SET UP จะไม่

 

คนทำการตลาด ออนไลน์ ให้ บ. Agency ใหญ่ๆ เข้าไม่ได้ใช้ ลูกทีม ภายใน บริษัทนะครับ

เขาจ้างคนเก่งๆ เก่งจริงๆ ค่าตัว 250,000 บาทต่อเดือน มาทำการตลาดให้

และจัดจ้าง BRANDING Consulting อีกทอดนึงมารับงาน

 

วงการนี้ อุบาทไหมครับ ?

คุณเลือกเป็นเหยื่อ ? หรือ คุณ เลือกจะ ออกจากระบบพวกนี้ ??