>

วิธี การ Resize รูปภาพ สำหรับ เนื้อหา SEO

บีบอัดภาพ เพื่อ SEO ที่ดีกว่า

พอทำ SEO ให้ลูกค้าหลายๆราย โดยเฉพาะ กลุ่มผู้ประกอบการ SME นั้น ทางเจ้าหน้าที่ ของบริษัทต่างๆ ต่างยังคงขาดประสบการณ์ ในการสร้างคุณภาพ เนื้อหา (Content) โดยเฉพาะ เรื่องของ รูปภาพ ที่พวกเขามองข้าม และไม่ได้ให้ความสำคัญ ประกอบกับความไม่รู้ในกระบวนการผลิตผลงานให้ผ่านมาตรฐาน Google Webmaster Policy ซึ่งจะยิ่งทำให้พวกเขา ห่างไกล จากความสำเร็จ ทางการจัดอันดับใน Search Engine. 

เรื่องของการ ย่อไฟล์ และ การ บีบอัดรูปภาพ เพื่อผล SEO ที่ดีกว่า

ตัวอย่าง ที่นำเสนอนี้ คือวิธีการ จัดเตรียมรูปภาพ ที่มีมาตรฐาน สำหรับนำไปจัดทำบทความ เพื่อทำอันดับ SEO ให้ดีมากยิ่งขึ้น

 

เริ่มต้น 1 – รูปภาพที่ได้มา ให้กำหนดขนาดก่อน

 

เลือกภาพที่เราต้องการปรับขนาดให้เล็กลง

รูปภาพ ตัวอย่าง ที่ได้มาจากลูกค้ารายหนึ่ง ใน Folder รูปภาพ ที่รวม Images จำนวนมากๆ เกี่ยวกับสินค้า และ บริการของธุรกิจ

ใน step แรกนี้ ให้เรา ลองพิจารณา การวาง Layout ว่าเราจะ สร้าง พื้นที่ ของรูปภาพ ขนาดเท่าไหร่

 

โดยรูปภาพ จะถูกกำหนด ความสูง x ความยาวของรูปภาพ

คำอธิบาย – กระบวนการ ทำ SEO นั้น ทางผู้ว่าจ้าง มักมองว่า ผู้รับทำ SEO อาจไม่ได้ มีงานที่ต้องทำอะไรมาก และ ไม่เข้าใจว่า กระบวนการทำอันดับ SEO นั้น ต้องทำอะไรบ้าง และมักจะมาสอบถามว่า เราทำอะไร ให้มันติดอันดับใน Google ทาง Search Monopoly แนะนำว่า เรามีเรื่องที่ต้องทำ ต่อลูกค้า 1 ราย เป็น 1000 กว่ารายการ ที่ต้องตรวจสอบ เราไม่สามารถ บอกเป็น ข้อสรุป หนึ่ง – สอง – สาม ว่าคุณต้องทำอะไร ซึ่งคำถามเหล่านี้ หากอยากรู้หมด ขอแนะนำว่า ให้คุณ จ้างเป็นการปรึกษาต่างหาก เพราะหากให้ Training ให้บริษัทเข้าใจการดำเนินงานจริงๆ เราจำเป็นต้องใช้เวลาในการสอนงานให้รู้ทุกมิติของการทำ SEO กว่า 600 ชั่วโมง หาก บริษัทใด ที่ต้องการให้เราสอนในเรื่องของ งาน Operation SEO ให้ครบถ้วน โปรดจัดจ้างเป็นรายปี โดยเราคิด Rate 1,500 บาท x 600 ชั่วโมง เป็นราคา ประมาณ 900,000 บาท แล้วคุณสามารถนำไปให้ลูกน้อง และ เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้เอง หากคุณสนใจ บริการ การทำ SEO ของ Search Monopoly ซึ่งมุ่งเน้นการ Operation งานที่มีคุณภาพ เก็บงานทุกรายละเอียด โปรดเข้ามาดูรายละเอียด บริการ รับทำ SEO (จะช่วยลดต้นทุนและรายจ่ายบานปลายได้มาก)

ภาพที่คุณเห็นเบื้องต้นนั้น หากลอง inspect หรือ look up properties โดยทำการ Click ขวา สำหรับ Window OS. คุณจะเห็นรายละเอียด ดังต่อไปนี้

เช็คขนาดภาพ size ที่ใหญ่เกิน

โดยทาง Policy เรื่องของ มาตรฐาน การผลิตงาน SEO ของ Search Monopoly เราจะเน้นให้ภาพทุกภาพ ทำการ Render ได้ฉับไว ตอบสนองกับ Google Search Engine ได้ดี 

ชื่อภาพ ถูกตั้งชื่อได้ถูกต้องแล้วหรือยัง ตัวอย่าง double-layer-a-p01.jpg (ถูกต้องแล้ว)
ขนาด (Size) สามารถทำได้ต่ำกว่า 70KB ได้ไหม ? ภาพนี้ ยังมีขนาด 202 KB ซึ่งยังไม่ได้มาตรฐาน
Dimension หรือ Area ของภาพ องค์ประกอบรวม เหมาะสมกับการจัดวาง Layout หรือไม่? ขนาดภาพ ใหญ่เกินไป กว้าง x ยาว
Alternate Text ถูกระบุได้ เหมาะสมหรือไม่? แล้วใส่หรือยัง?

ตัวอย่าง ALT TEXT ควรจะเป็น

“ภาพถ่าย หน้างาน การติดตั้งประตูม้วน สีเทา รุ่น Double Layer A100”

ขนาด dimension ของภาพ

เมื่อเราลองมา Inspect ภาพนี้ กลับพบว่า ภาพมีขนาดที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่สามารถ และ ไม่ควรนำไปใส่ในบทความเพื่อทำอันดับ SEO

เราควรจะต้อทำการ Re-Size ขนาดภาพเบื้องต้น และ กำหนด Proportion ที่เหมาะสม โดยใช้วิธีการ กำหนดขนาดให้เหมาะสม

โดยเราอาจใช้เครื่องมือ Image Editor ต่างๆ ซึ่งทาง Search Monopoly จะลองใช้ Photoshop ในการปรับภาพ

เมื่อใช้ Photoshop function crop ภาพ โดยภาพตัวอย่างนี้ ลองพิจารณา การวางองค์ประกอบ Layout แล้ว พบว่า จะใช้
Dimension ขนาด 550 x 350 แทน ขนาดเดิม ที่เป็น 1280 x 960 px. จะทำให้ลดทอนขนาดลงได้มาก

จัดการวางภาพ และ area ของการ crop ภาพ ให้เหมาะสม 

รายละเอียด ต่อไป ให้กำหนด เป็น Low Quality หรือ ระดับ 5 ก็ได้ ไม่ควรใส่ 8 – 12 เพราะภาพจะมีขนาดที่ใหญ่เกินไป

การขายของทางออนไลน์ เราไม่ได้ขายงานศิลปิน ไม่จำเป็นต้องลงภาพขนาด 3MB หรือ 15MB ซึ่งหากทำแล้ว webpage จะบวม และ อำลา อันดับ Google ไปได้เลย

ฉะนั้น จะขายของระดับ ร้อยล้าน ทาง webpage ให้ทำการ ลดขนาด size ภาพ ให้ใกล้เคียงกับ 70KB ซึ่งจะทำให้ เว็บเพจ มี Performance ที่ดียิ่งขึ้น 

STEP ที่ 2 คือสร้าง identity ความเป็นเจ้าของภาพ และ ป้องกัน การ ขโมยภาพ

ซึ่งทาง Search Monopoly มีเทคนิคการฝัง script ให้กับลูกค้าทุกราย หากมีการขโมยภาพสินค้าที่เป็น Original ของลูกค้าเราไป เราจะได้ credit ความเป็นเจ้าของหรือ Authority เต็มๆ

อีกวิธีที่ทาง Operation หรือพนักงาน ของลูกค้าดำเนินการ คือการใส่ลายน้ำ หรือคาบแถบต่างๆ ให้มีตัวตน หรือ Brand ของ บริษัท 

การใส่ลายน้ำให้ภาพ

เมื่อใส่ลายน้ำ หรือ LOGO ของเราลงไป ให้ทำการ ย่อ image size ให้เหลือตาม Proportion ที่เราต้องการ คือ 550 x 350

เมื่อย่อลงอีก เราจะได้ไฟล์ภาพขนาด 47.9 KB ซึ่ง Performance สูงกว่ามาตรฐาน

แนะนำให้ใช้ Baseline Optimized สำหรับภาพที่ไม่สำคัญมาก เป็นภาพรายละเอียด สินค้าทั่วๆไป 

STEP ที่ 3 คือ การสร้าง Image ให้มี Sense ของการขายสินค้า

ใช้จิตวิทยาเรื่องการไล่สี อันนี้จะเป็นงาน design ถ้ามีเวลา แล้วค่อยทำ ถ้ารีบก็อย่าทำ แต่ทาง Search Monopoly มี trick พิเศษ ที่มีการจัดวาง Object ให้ดูลื่นตา และ ปรับกับ Flow ของ UX ที่คอมีคุณภาพที่เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของการทำอันดับ SEO ซึ่งหากสนใจ Step ที่ 3 ให้ศึกษาเพิ่มเติม หรือสอบถามที่ Search Monopoly

การปรับภาพ ให้สี สะดุดสายตา

สร้าง Feeling เรื่องสี โทน ความรู้สึก มันใช้จินจนาการ ไม่เกี่ยวกับ SEO โปรดข้ามไป STEP 4 ได้เลย

STEP ที่ 4 การใช้ เครื่องมือ บีบอัดภาพ ด้วย Online Tool

เมื่อเรา ได้ภาพที่ต้องการแล้ว งานของเรา ยังไม่จบ หากทำ SEO ให้สุดขั้นกว่านี้ จะมีการใช้ Tool บีบอัดภาพให้ละเอียดกว่าเดิม

เครื่องมือบีบอัดภาพ ทีละภาพ สำหรับ เว็บที่ไม่มีขนาดเยอะ
แนะนำเพิ่มเติม : ถ้าเว็บไหนมี 100,00 ภาพที่ต้องบีบอัด ให้เช่า Tool มารอบนึงเลย ทำยาวๆ แล้ว re-upload จะไวกว่า เราควรพิจารณาจัดจ้างจ้าง โปรแกรมเม่อร์ ทำ job เดียว เช่น Re-Upload + ALT Text ไปด้วย

ภาพที่บีบอัด ลดลงมาเหลือเพียง 26 KB จากเดิม 202 KB
ภาพนี้ สามารถนำไปใช้งานในหน้าเว็บเพจได้แล้ว

ตัวอย่างภาพ ที่บีบอัดแล้ว

เมื่อเรานำภาพ ไปใส่ในเว็บของเรา (ในที่นี้ เราใช้ CMS WordPress) ทำให้ง่ายต่อการจัดการมากๆ

ตัวอย่าง หน้า web layout ที่ ตกแต่งอย่างดี

เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการ ให้เรานำภาพไปจัดแสดงหน้าเว็บ Layout และปรับ Class + ID ต่างๆ เพื่อตระเตรียมการขึ้น Call To Action หรือ Story Telling เพื่อการปิดการขายงานนี้ โดยจะต้องใช้พลังสร้างสรรค์ของงานเขียน เนื้อหาและบทความSEO เข้ามาเป็นตัวช่วยอีกทีหนึ่ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *